SYNEX คาดปีนี้กำไรโตเท่าตัว,เจรจาเข้าซื้อกิจการ-ร่วมทุนพันธมิตรในเขมร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2015 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 181.90 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิ 166.15 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 178% เนื่องจากบริษัทเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Commercial ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 15% โดยสินค้ากลุ่ม Consumer ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีที่คึกคักมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการบริหารจัดการในเรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแนวโน้มรายได้ปีนี้ยังมั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ไม่ต่ำกว่า 10% หรืออยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/58 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/58 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่กับรักษาฐานลูกค้าเดิม

"กำไรสุทธิปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อน เพราะครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็เติบโตไปกว่า 100% แล้ว เพราะเรามีการบริหารเรื่องของ product mix รวมถึงการเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงด้วย และในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/58 ที่คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งเราก็มีความมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"นางสาวสุธิดา กล่าว

นางสาวสุธิดา กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง 1 ราย และเจรจาร่วมทุน 2 ราย คือพันธมิตรท้องถิ่นของกัมพูชา และพันธมิตรในประเทศไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมเข้าลงทุนขยายสาขาในกัมพูชา โดยคาดว่าทั้งการเข้าซื้อกิจการ และการร่วมทุนจะเห็นความชัดเจนภายในปี 59

สำหรับธุรกิจต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้าที่จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 30% ใน 5 ปี จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2-3% หรือมีรายได้ราว 800-900 ล้านบาท โดยยอดขายในต่างประเทศจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเมียนมาร์ที่บริษัทตั้งเป้าที่จะมียอดขายเติบโตเท่าตัวในทุกๆ ปี ส่งผลให้ธุรกิจในอินโดจีนจะเริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เร่งเพิ่มยอดขายให้อยู่ที่กว่า 1,000 ล้านบาทในปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ