(แก้ไข) KTB เผยตั้งสำรองเพิ่มจากกรณี SSI กระทบกำไร Q3/58 ราว 6 พันลบ.,หั่นเป้าสินเชื่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 21, 2015 18:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรภัค ธันยวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของธนาคารในปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.31 หมื่นล้านบาท โดยได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้ บมจ.สหวิริยาสตีลดินดัสตรี (SSI) ทำให้ธนาคารต้องตั้งสำรองเพิ่มมากขึ้น โดยในไตรมาส 3/58 ธนาคารเตรียมตั้งสำรองเพิ่มอีก 9,000 ล้านบาทสำหรับหนี้ทั้งหมดของ SSI หรือเป็นการตั้งสำรองหนี้ทั้ง 100% หลังจากในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันธนาคารตั้งสำรองในส่วนดังกล่าวไปแล้ว 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท

อีกทั้ง ธนาคารจะหารือกกับคณะกรรมการของธนาคารภายในเดือน ก.ย.นี้เพื่อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ SSI โดยอาจจะดึงเงินสำรองส่วนเกินของธนาคารมาใช้ประคองผลประกอบการในไตรมาส 3/58 ไม่ให้ปรับตัวลงไปมากนัก

"กรณีตั้งสำรองเพิ่มขึ้นของ SSI จะไม่ผลกระทบผลประกอบการในไตรมาส 3 นี้ เพราะที่ผ่านมาเราก็มีการทยอยตั้งสำรองมาโดยตลอด และ SSI ก็มีการจ่ายดอกเบี้ยตามปกติ แต่เงินต้นเราได้ยืดเวลาออกไปนานแล้ว แต่สิ่งที่ส่งผลอย่างหนึ่งคือ Gross NPLs ในไตรมาส 3 นี้จะเพิ่มเป็น 3.5% จากปัจจุบันอยุ่ที่ 2.96%"นายวรภัค กล่าว

อย่างไรก็ตาม การที่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Gross NPLs) เพิ่มขึ้น ส่งผลต่ออัตราส่วนต่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร(Coverage Ratio)ในไตรมาส 3/58 จะปรับตัวลดลงมาที่ 90% หลังจากตั้งสำรองหนี้ SSI เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน Coverage Ratio อยู่ 125% ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายจะรักษา Coverage Ratio ในปีนี้ไม่ให้ต่ำกว่า 100% โดย KTB ระบุว่าการตั้งสำรองเพิ่มดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/58 ประมาณ 6,000 ล้านบาท

ส่วนการขยายสินเชื่อรวมของธนาคาร นายวรภัค กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารปรับลดมาเหลือการขยายตัวของสินเชื่อที่ 3% จากเดิมคาดว่าจะโต 4 - 6% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารได้เพิ่มความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และหันมาบริหารคุณภาพหนี้ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้สินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะขยายตัวไม่ได้มากเท่ากับครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.3% ในปีนี้

"ปีนี้ที่สินเชื่อรวมปรับตัวลดลง เพราะเราหันมาโฟกัส NPL ในครึ่งปีหลังมากกว่า แต่จริงๆแล้ว ความต้องการของสินเชื่อก็ยังมีอยู่ แต่เราก็ระมัดระวังมากขึ้น เพราะแนวโน้มที่ผ่านมา NPL เราก็เพิ่ม สินเชื่อตอนนี้ก็เลย Slow down ไปก่อน อีกทั้งเศรษฐกิจในประเทศก็ยังไม่ดีขึ้น จะทำอะไรตอนนี้ก็ต้องระมัดระวัง"นายวรภัค กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่า ในสิ้นปีนี้ NPL ของ KTB จะอยู่ที่ 3.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ