ซีไอเอ็มบีฯ ออกกองทุนธีม Silver age ขาย 28 ก.ย.-2 ต.ค.,ดึงอดีตผู้บริหารกองทุนประกันสังคมร่วมทีม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2015 12:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัว ‘กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ’ (CIMB-PRINCIPAL Global Silver Age Fund หรือ CIMB-PRINCIPAL GSA) วงเงิน 2,000 ล้านบาท กำหนด IPO ระหว่างวันที่ 28 กันยายน–2 ตุลาคม 2558 เพื่อรองรับเทรนด์การลงทุนดังกล่าว

พร้อมทั้งเสริมทัพทีมบริหารจัดการลงทุน โดยได้นายวิน พรหมแพทย์ อดีตผู้บริหารกองทุนประสังคม มาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัทฯ เพื่อดูแลการบริหารกองทุนให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน โดยนายวิน กล่าวว่า ธีมการลงทุนที่ขอนำเสนอ Global Silver Age เป็นธีมการลงทุนระยะยาว ที่ผสมผสานภาพ Demographic Megatrend กลุ่ม Baby Boomers ที่กำลังจะทยอยเกษียณในช่วง 10-20 ปีข้างหน้า และเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมหาศาลที่พร้อมจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตนเอง

กองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ (CIMB-PRINCIPAL GSA) มีนโยบายการลงทุนในธีม Silver age ซึ่งกระจายการลงทุนในธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มเกษียณมั่งคั่ง เช่น สุขภาพและความสวยความงาม (Health and Wellness Well-Being) การท่องเที่ยว เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ โรงพยาบาลและการรับบริการทางการแพทย์ธุรกิจเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์เพื่อผู้สูงวัย การประกันภัยและประกันชีวิต

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากกลุ่ม Silver Age ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เน้นการลดริ้วรอย (Anti-aging) กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ (เครื่องวัดความดัน, เครื่องช่วยฟัง, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตา) กลุ่มผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์เน้นโรคที่เกิดกับกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มโรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ สถาบันการเงินที่ให้คำปรึกษาวางแผนการเงินหลังเกษียณ บริษัททัวร์หรือเรือสำราญ บริษัทรถยนต์ที่ผลิตโดยคำนึงถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันและสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น

การลงทุนในธีม Global Silver Age เป็นมากกว่า Healthcare เพราะเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง และกระจายความเสี่ยงในหลายอุตสาหกรรม มีความคล่องตัวในการปรับกลยุทธ์การลงทุนในแต่ละช่วงขณะ และมีความผันผวนที่ต่ำกว่าการลงทุนในกลุ่ม Health Care เพียง Sector เดียว ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมโดยผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี-กรกฎาคม อยู่ที่ 12.96% โดยประมาณ และผลตอบแทน 3 เดือนอยู่ที่ 5.69% โดยประมาณ

ทั้งนี้ เงินระดมทุนที่ได้จากกองทุน CIMB-PRINCIPAL GSA จะนำไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Amundi-HK-Global Ageing Planet Opportunities Fund เป็นกองทุนหลัก (Master Fund) จดทะเบียนที่ฮ่องกงและบริหารโดย Amundi Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศสที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยเป็นบริษัทฯ ร่วมทุนของธนาคารยักษ์ใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส 2 แห่ง คือ CREDIT AGRICOLE และ SOCIETE CENERALE ที่มีความเชี่ยวชาญในธีมการลงทุนแบบ Silver Age Equity Strategy ที่กระจายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายซึ่งได้รับประโยชน์จากกลุ่ม Silver Age กว่า 8 กลุ่ม มีสินทรัพย์กลุ่มนี้มีการบริหารรวมกันกว่า 47,450 ล้านบาท (ณ 31 ก.ค. 2015) โดยกองทุนหลักจะเข้าไปลงทุนในตราสารทุนในบริษัทฯ ต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากกลุ่มเกษียณอายุที่มีความมั่งคั่ง เช่น บริษัท ALLERGAN ผู้ผลิตยาขนาดใหญ่ของโลกที่มีเวชภัณฑ์เกี่ยวกับกลุ่มผู้สูงวัย บริษัท C.R.Bard บริษัทเครื่องมือทางการแพทย์ขนาดใหญ่สัญชาติสหรัฐฯ ING (Financial) สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก บริษัท Valeant Pharmaceuticals ผู้ผลิตยาขนาดใหญ่ในแคนนาดา เป็นต้น

กองทุน CIMB-PRINCIPAL GSA นี้ จึงนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมจากธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของกลุ่มประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นายจุมพล กล่าวว่า การเติบโตของกลุ่มผู้สูงอายุทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุอยู่ที่ 11.7% ของประชากรโลก หรือคิดเป็น 900 ล้านคน และคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 จะเพิ่มเป็น 21.1% หรือประมาณเกือบ 2,000 ล้านคน ซึ่งโดยหลักสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนา (Develop market) ถือเป็นกลุ่มเกษียณมั่งคั่ง (Silver Age) ซึ่งมีรายได้และเงินออมสูงและพร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อความสุขของตนเอง โดยพบว่ากลุ่มประเทศที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสุด ได้แก่ สหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่น

ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเข้าสู่วัยเกษียณเริ่มเปลี่ยนจากเดิมที่เน้นการเก็บเงินเพื่อลูกหลานและค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามเกษียณ เปลี่ยนเป็นความยินดีที่จะใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการให้ตนเองดูดี ดูอ่อนกว่าวัยและเพื่อความบันเทิงในการใช้ชีวิตในยามเกษียณ โดยพบว่า กลุ่มช่วงอายุระหว่าง 56-59 ปี จะให้ความสนใจเรื่องของการรักษาสุขภาพและต้องการดูดีกว่าช่วงวัย กลุ่มอายุ 60-69 ปี จะใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับการดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การหางานอดิเรกหลังวัยเกษียณ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และกลุ่มอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ต้องการบริการการดูแลรักษาด้านสุขภาพตลอดเวลา

"เราจึงมองเห็นโอกาสการเข้าลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคของกลุ่มซิลเวอร์ เอจ เพราะศักยภาพของผู้บริโภคกลุ่มนี้สามารถที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทต่างๆ ที่เน้นสินค้าหรือบริการที่ผลิตให้กับกลุ่มผู้บริโภคซิลเวอร์ เอจ"นายจุมพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ