ทั้งนี้ภายหลังจากรับแบบคำขอและเอกสารในรายละเอียด จะเป็นขั้นตอนการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต แล้วจึงนำเสนอ กทค.พิจารณา และจะสามารถประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติที่มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารคำขอครบถ้วน จะแจ้งผลพิจารณาให้แก่ผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตทราบ ซึ่งผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตสามารถอุทธรณ์ผลการพิจารณาได้ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ได้รับแจ้งผลการพิจารณา
นอกจากนี้จะมีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในวันที่ 11 พ.ย.58 คาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ชนะการประมูลได้ภายใน 7 วัน หลังจากการประมูลสิ้นสุด ขณะเดียวกันทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งถึงผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทุกราย ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะอยู่ในช่วงของ ไซเรนต์พีเรียด ซึ่งห้ามมีการพูดถึงประเด็นของการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz จนกว่าจะสิ้นสุดการประมูล เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการพิจารณาคุณสมบัติขอผู้ขอรับใบอนุญาต ที่จะนำไปสู่การถูกตัดสิทธิไม่ให้เข้าประมูลในครั้งนี้ได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทสนใจขอรับแบบคำขอรับใบอนุญาตฯ ที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ,บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด, บริษัท ดีแทค บรอดแบรนด์ จำกัด,บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์เซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด, บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด, บริษัท ฮัทชิสัน เทเลคอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เรียล มูฟ จำกัด
สำหรับผู้ที่จะมายื่นคำขอรับใบอนุญาต ยังคงมีเวลาในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตไปจนถึงเวลา 16.30 น. ขณะที่ทางบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์เซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ได้แจ้งมายังสำนักงาน กสทช.ว่าจะเดินทางมายื่นคำขอรับใบอนุญาตดังกล่าวในช่วงบ่ายวันนี้
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จะแบ่งเป็น 2 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 15 MHz โดยมีราคาประมูลตั้งต้นจำนวน 15,912 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการประมูลดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยรัฐบาลจะมีรายได้ที่เกิดจากการประมูลไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท และจะเกิดการจ้างงานในระบบอุตรสาหกรรมโทรคมนาคม รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันมากขึ้น