บล.เอสบีไอ ไทยฯ เปิดตัวโบรกฯชูจุดขายออนไลน์เริ่มส่งคำสั่งซื้อขาย 16 ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 1, 2015 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์(SBITO) เปิดตัวธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ ชูจุดขายการเป็นโบรคเกอร์ออนไลน์ 100% มาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่น พร้อมอำนวยความสะดวกลูกค้าในขั้นตอนการเปิดบัญชีและส่งเอกสารผ่าน 7-11 กว่า 8,300 สาขาทั่วไทย และชูนวัตกรรมใหม่การเทรดหุ้นด้วยประเภทคำสั่ง GTD และ GTC แบบสมบูรณ์ รวมถึงการให้ลูกค้าย้ายหลักประกันแบบเรียลไทม์แถมอัดโปรโมชั่นเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่เจ้าแรกเจ้าเดียวที่กล้าลดราคาค่าคอมมิสชั่น 90% จากราคาปกติตลอด 3 เดือนแรก และมั่นใจว่าเราจะผู้นำในตลาดซื้อขายออนไลน์

นายวราห์ สุจริตกุล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ SBITO ซึ่งจัดตั้งขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง SBI Group กลุ่มบริษัทการเงินญี่ปุ่น กับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) และพันธมิตร เพื่อให้บริการธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์อย่างแท้จริงแก่นักลงทุนไทย โดยถือหุ้นฝ่ายละ 55% และ 45% มีทุนจดทะเบียน 722 ล้าน

SBITO ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการจากกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต.ให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และได้เข้าเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์หมายเลข 33 ตั้งแต่แต่วันที่ 1 ต.ค.58 และจะสามารถเปิดให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะมุ่งดำเนินธุรกิจผ่านระบบออนไลน์อย่างแท้จริงให้แก่นักลงทุนไทย ทางเว็บไซต์ www.sbito.co.th ส่วนตลาดซื้อขายล่วงหน้าจะเริ่มให้บริการต้นปี 59

"เรามั่นใจว่าเราจะประสบความสำเร็วเป็นอย่างมากเพราะมีทางคุณเมกุมุ โมโตฮิสะ มารับหน้าที่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพราะเป็นบุคคลแรกที่เริ่มนำระบบการซื้อขายออนไลน์มาใช้ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นจนได้รับความนิยมและแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน"นายวราห์ กล่าว

ด้วยรูปแบบการดำเนินชีวิตปัจจุบันที่พึ่งพิงเทคโนโลยีทำให้การลงทุนแบบออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ที่ฉลาดกว่า และมีทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับนักเทรดไทยในโลกยุคใหม่ เพื่อรับโอกาสที่เหนือกว่าใครในทุกๆ ก้าว “ซึ่งเราพร้อมให้บริการทุกระดับไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายเล็กจนถึงรายใหญ่ ไม่ว่าจะมีปริมาณซื้อขายเป็นอย่างไร เพราะเราอยากให้ทุกคนมีโอกาสไปสู่ความมั่งคั่งในตลาดการลงทุนซึ่งเราพร้อมอำนวยความสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดบัญชี ที่สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และยืนยันตัวตนพร้อมส่งเอกสารประกอบได้ ที่ 7-11 ทั่วไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”

เรามีระบบการส่งคำสั่งที่อำนวยความสะดวกลูกค้าในกรณีที่คำสั่งซื้อหรือขายที่ยังไม่รับการจับคู่ (Unmatched order) ซึ่งโดยปกติคำสั่งซื้อขายเหล่านั้นจะถูกยกเลิกโดยระบบในสิ้นวัน แต่ด้วยระบบ GTC/GTD ของ SBITO นักลงทุนเพียงแค่ระบุเงื่อนไขวันหมดอายุหรือที่เรียกว่า Good Till Cancel (GTC) หรือ ประเภทระบุวันหมดอายุ หรือ Good Till Date (GTD) เท่านั้นคำสั่งที่ยังไม่ได้รับการการจับคู่จะถูกส่งไปยังตลาดหลักทรัพย์ในวันรุ่นขึ้นโดยที่นักลงทุนไม่ต้องส่งคำสั่งใหม่

นอกจากนี้ เราคิดค่าธรรมเนียมต่ำกว่า เพื่อให้นักลงทุนมีโอกาสที่มากขึ้นในการตัดสิน โดยเฉพาะช่วงโปรโมชั่น0tคิดค่านายหน้าสูงสุดเพียง 0.015% สำหรับบัญชี Cash Balance และ 0.02% สำหรับบัญชี Cash Account ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.58 ไปจนถึง วันที่ 15 ม.ค.59 โดยอัตราค่าธรรมเนียมจะลดลงตามมูลค่าซื้อขายต่อวัน นอกจากนี้ เรายังจะมีโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องรวมถึงเอกสิทธิส่วนตัวที่นักลงทุนจะได้รับ

นายวราห์ สุจริตกุล ยังกล่าวอีกว่า บริษัทได้พัฒนาระบบการย้ายหลักประกันระหว่างบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์เพียงแค่ส่งคำสั่งการย้ายหลักประกันที่ปลอดชำระ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด (Cash Collateral Transfer) หรือหุ้น (Stock Collateral Transfer) วงเงินซื้อขายท่านจะได้รับการปรับในทันที โดยไม่ต้องรอการดำเนินการจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งนับว่าเป็นการยกระดับการให้บริการออนไลน์ไปอีกระดับ

สำหรับ SBI Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน Minato-ku, โตเกียว ภายใต้การบริหารจัดการโดยนายโยชิทากะ คิทาโอะ ปัจจุบันกลุ่มบริษัท SBI มีพนักงานประมาณ 5,000 คน บริษัท เอสบีไอโฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (รหัส: 8473) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย SBI Group มีบริษัทในเครืออย่าง SBI Securities ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่มีความชำนาญในการให้บริการแก่นักลงทุนแบบออนไลน์ และยังเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการการซื้อขายหลักทรัพย์บนระบบอินเตอร์เน็ตรายแรกในประเทศญี่ปุ่น

ปัจจุบัน จากจำนวนบัญชีซื้อขาย มูลค่าพอร์ตการลงทุนของลูกค้า และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทหลักทรัพย์ SBI เป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันโดดเด่น ในด้านการให้บริการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถพิจารณาได้จากสัดส่วนทางการตลาด และจำนวนบัญชีลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวที่เป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี FSS เคยร่วมทุนกับ SBI Group ใน SBIR ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในกัมพูชาเมื่อปี 2556 ซึ่งการลงทุนร่วมกันครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีของธุรกิจให้กับทั้ง 2 บริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ