JMART ตั้งเป้าปี 59 รายได้โต 15% จากปีนี้คาดทรงตัว ลุยเน้นตลาดออนไลน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 1, 2015 12:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ.เจ มาร์ท(JMART) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีหน้าจะเติบโตได้ราว 15% มาจาก 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริมและสินค้าเทคโนโลยี, ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ศูนย์รวมจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้การบริหารของ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท และธุรกิจบริการติดตามเร่งรัดหนี้และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ของ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส(JMT)
"เราตั้งเป้าหมายการเติบโต 15% ในทุกปี และปีหน้าก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าด้วยจุดแข็งที่เรามีบริษัทลูกคอยซัพพอร์ต ในเรื่องของช่องทางขาย และจุดต่าง เจมมันนี ที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้ลูกค้ามาสนใจสินค้ามากขึ้น และน่าจะครองตลาดได้ ส่วนช่องทางการขายในซิงเกอร์ ก็น่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป"นายนราธิป กล่าว

ขณะที่การร่วมมือทางธุรกิจหลังจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย(SINGER)ในสัดส่วน 24.99% แล้วนั้น คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนของความร่วมมือมากขึ้นในปีหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยาย Jaymart Shop ในสาขาซิงเกอร์จำนวน 10 สาขา น่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือเติบโตราว 10% ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/59 เป็นต้นไป

นายนราธิป กล่าวว่า บริษัทยังมองหาโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีก โดยเน้นธุรกิจรีเทล ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นและจุดแข็งของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ไม่ได้เร่งรีบในการเข้าซื้อกิจการเข้ามา แต่จะเน้นการบริหารกิจการที่มีอยู่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีรายได้เข้ามาอย่างมั่นคงก่อน

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมรุกธุรกิจไปยังตลาดออนไลน์มากขึ้น หลังพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 1/59 และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

ประกอบกับ บริษัทมีแผนเปิดสาขาจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเลต หรือโซน ITEM ซึ่งจะเน้นด้าน GADGET ตั้งเป้า 10 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2/59 โดยมองว่าจะช่วยตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าอุปกรณ์เสริมมากขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มรายได้เป็นเท่าตัว จากเดิมที่มีเพียงการขายโทรศัพท์มือถือผ่านหน้าร้าน Jaymart ต่อสาขาอยู่ที่ 1 ล้านบาท

นายนราธิป กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 9,284.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็น่าจะเป็นไปตามรายได้ แม้ว่าบริษัทจะมีการปิดสาขาที่ไม่สามารถทำยอดขายได้ดี และเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อมาทดแทนราว 15 สาขา ซึ่งเท่ากับจำนวนสาขาที่ปิดไป ทำให้บริษัทไม่ได้สูญเสียรายได้มากนักแล้วก็ตาม

ส่วนงาน Thailand Mobile Expo 2015 showcase ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.58 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายภายในงานไว้ที่ 65 ล้านบาท โดยจะมีการนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ อย่างแบรนด์ Samsung ,I Phone, Huawei, Lenovo และ LG ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้ารุ่นใหม่แล้ว ยังถือว่ามีมูลค่าสูง และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างดี ประกอบกับ บริษัทก็มีบริการในเรื่องของการผ่อนชำระผ่านทางเจมันนี ซึ่งเป็นจุดเด่นและสามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ