การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,388.34 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,381.41 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 524 หลักทรัพย์ ลดลง 452 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 331 หลักทรัพย์
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยืนในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน รับผลจากดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า หลังจากที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ครั้งก่อน ออกมาแสดงให้เห็นได้ว่าเฟดมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงในเดือนธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ปกติตลาดฯจะปรับตัวลง แต่ครั้งนี้ปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า น่าจะเป็นผลจากที่ตลาดให้ความสนใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะจะทำให้เศรษฐกิจโลกกระเตื้องขึ้นด้วย นอกจากนี้หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ถ้าจะปรับขึ้นอีกทีก็เป็นเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้เห็นได้ว่ามีช่องว่างในการเล่นหุ้น เพราะปกติเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยจะทำติดต่อกัน แต่งวดนี้มีช่องว่าง ทำให้ตลาดฯต่างขึ้นมารับข่าวนี้
นอกจากนี้ มองว่าดัชนีฯน่าจะยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีความชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศสก็ไม่ได้ลุกลามไปมากว่านี้ รวมถึงในวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ จะมีตัวเลขเศรษฐกิจไทยประกาศออกมา ซึ่งต่ารอดูดัชนีการลงทุนภาคเอกชน และดัชนีการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากที่ GDP ของไทยงวดไตรมาส 3/58 เริ่มเห็นการฟื้นตัว หากฟื้นตัวขึ้นมาได้จริงก็อาจจะทำให้มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาทันที
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายเกียรติก้อง กล่าวว่า ดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,395-1,400 จุด ส่วนแนวรับ 1,378-1,374 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,593.17 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,596.50 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.05 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,167.88 ล้านบาท ปิดที่ 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
WHA มูลค่าการซื้อขาย 1,085.33 ล้านบาท ปิดที่ 2.94 บาท ลดลง 0.16 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 930.67 ล้านบาท ปิดที่ 269.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท