TACC โรดโชว์หุ้น IPO ได้รับผลตอบรับดี มองผลประกอบการโตอย่างมีนัย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 20, 2015 11:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์(TACC)เปิดเผยว่า การนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่อนักลงทุนใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น สงขลา เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก TACC ถือเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านของผลประกอบการที่มีความสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่นโดยให้อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ร้อยละ 93.39 ในปี 57 และร้อยละ 66.50 ในงวด 9 เดือนแรกของปี 58

นอกจากนี้ ยังมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.50 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน อีกทั้งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Key Strategic Partner) กับ CPALL มานานกว่า 12 ปี โดยมีการพัฒนาสินค้าร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมาก จนปัจจุบัน TACC กลายเป็นผู้นำที่มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ในส่วนที่เป็นเครื่องดื่มในโถกดที่จำหน่ายในร้าน 7-Eleven

“ด้วยความโดดเด่นที่มีมากมายของ TACC ทำให้ผมมั่นใจว่าไอพีโอน้องใหม่รายนี้จะเป็นขวัญใจของนักลงทุนได้ไม่ยาก โดยเฉพาะแผนการลงทุนในโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (Vending Machine) แม้ปีแรกจะเริ่มต้นไม่มากนัก แต่อนาคตอันใกล้ในระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จะทำให้ผลประกอบการของ TACC มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมไทย ดังนั้นการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้จึงถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ"นายสมภพ กล่าว

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร TACC กล่าวถึงผลการโรดโชว์ต่อนักลงทุนทั้ง 4 จังหวัด ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างล้นหลาม สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ อีกทั้งเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจและมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอกระแสตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน

“ผลจากการโรดโชว์ต่อนักลงทุนทั้ง 4 จังหวัด ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะมีนักลงทุนที่เข้ามาร่วมรับฟังข้อมูลของบริษัทอย่างล้นหลาม โดยนักลงทุนได้ให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของ TACC อย่างละเอียด ทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของ TACC และมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัทมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มั่นใจว่าวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน" นายชัชชวี กล่าว

โครงการในอนาคต บริษัทมีโครงการลงทุนใน"เครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ"(Vending Machine) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มร้อนประเภทชาและกาแฟ โดยบริษัทมีเป้าหมายจะติดตั้งให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่องภายในปี 60 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและร่างบันทึกข้อตกลงทางการค้ากับ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) คาดว่าจะสามารถลงนามบันทึกข้อตกลงและเริ่มติดตั้งเครื่อง Vending Machine ได้ประมาณ 10 เครื่องภายในปีนี้ และในปี 59-60 คาดว่าจะติดตั้งได้จำนวน 740 เครื่องและ 750 เครื่องตามลำดับ โดยจะใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 120 ล้านบาท

นายชัชชวี กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้สองส่วนด้วยกันคือ 1.เพื่อลงทุนในโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (Vending Machine) และ 2. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งหากมีการเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอของ TACC มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จากนักลงทุน และถือเป็นบันใดอีกขั้นที่จะพาบริษัทก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง

ด้านผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 58 บริษัทฯ มีรายได้รวม 745.42 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.25 โดยมีกำไรสุทธิ 54.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77.36% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.61 ล้านบาท รวมทั้งสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 57 ที่มีจำนวน 51.84 ล้านบาท สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ในภาพรวมยอดขายจะค่อนข้างทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการมุ่งเน้นขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มมากขึ้น

และงวด 9 เดือนแรกของปี 58 บริษัทฯ มีการผลิตสินค้าจากโรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 95.60% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง โดยจะเห็นได้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนแรกของปี 58 ของบริษัทอยู่ที่ร้อยละ 30.53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.20 ในปี 57

นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยมีการควบคุมงบประมาณการใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.15 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 7.28 ในงวด 9 เดือนแรกของปี 58

TACC เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 168 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.63% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในปี 58 นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ