(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสอ่อนลงตามตลาดเอเชีย ปัจจัยใน-นอกปท.ยังไม่เอื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 25, 2015 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกัน โดยปัจจัยในประเทศไม่มีประเด็นอะไรมาก มีเพียงตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.ของไทยที่ประกาศออกมาแย่กว่าเดิม ซึ่งนักวิเคราะห์ฯต่างคาดว่าน่าจะหดตัวลดลง อย่างไรก็ดีวันนี้อาจจะให้น้ำหนักไปที่ราคาน้ำมัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เครื่องบินรัสเซียถูกยิงตก ทำให้ตลาดเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจจะมาช่วยหนุนกลุ่มน้ำมันในวันนี้ได้

ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของสหรัฐฯออกมาดีตามคาด โดยงวดไตรมาส 3/58 ออกมาเติบโต 2.1% ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และตรงนี้จะไปกดดันค่าเงิน และเม็ดเงินให้มีการไหลออก

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีนก็ยังไม่ดี แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย และลดการตั้งสำรองฯ เพื่ออัดฉีดเงินเข้าระบบ แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจของจีนมากนัก ทำให้มีคนมองว่าจีนน่าจะทำอะไรที่มากกว่านี้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางส่วนก็ยังผิดหวังกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่ประกาศออกมา ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาแย่กว่าคาด ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลาดฯคงจะยังไม่ผ่าน 1,400 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,370 จุด

พร้อมให้จับตาตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศต่างๆที่จะทยอยประกาศออกมา และให้ติดตามการประชุมการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในเวลาที่ใกล้เคียงกันในวันที่ 3-4 ธ.ค.นี้ โดยดูว่าโอเปกจะลดกำลังการผลิตหรือไม่ ส่วน ECB ก็รอดูจะมีการอัดฉีดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เพิ่มเติมหรือไหม

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,812.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.51 จุด(+0.11%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด(+0.01%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด(+0.12%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 68.05 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 54.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.40 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 พ.ย.58)1,384.92 จุด ลดลง 9.30 จุด(-0.67%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 210.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 พ.ย.58) ปิดที่ 42.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 พ.ย.58)ที่ 9.23 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.70/72 แข็งค่าต่อเนื่อง หลัง GDP Q3/58 สหรัฐฯ ออกมาดีตามคาด
  • นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบรางระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ไปลงนามในบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอซี) ในการพัฒนารถไฟไทยญี่ปุ่น เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกตอนล่าง ในช่วงที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 26-28 พ.ย.นี้
  • นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. 2558 ไทยส่งออกสินค้าได้ 1.85 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 8.11% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2557 เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และติดลบหนักสุดในรอบปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปีนี้อยู่ที่ 1.80 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 5.32%
  • "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความกังวลในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาความล่าช้าในโครงการความร่วมมือลงทุนก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมาแก่งคอย-มาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ โดยนายกฯ ได้สอบถามว่า ทำไมจึงไม่คืบหน้า ทั้งๆ ที่ประชุมตัวแทนระหว่างรัฐบาลไทย-จีนไปแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2558 แต่ยังไม่สามารถสรุปการก่อสร้างได้
  • กรรมการ กนง.เผยความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น ห่วงเศรษฐกิจจีนชะลอ-ภาวะภัยแล้ง เล็งปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ทั้งปีนี้และปีหน้า และประกาศอย่างเป็นทางการในรายงานนโยบายการเงินวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ระบุยังไม่วางใจตรึงดอกเบี้ยต่ำนานอาจเกิดเก็งกำไรช่องทางอื่น ถึงจุดหนึ่งควรทยอยปรับสู่ภาวะปกติถึงตอนนั้นมั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้เสนอการแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินมาตรา 120 เพื่อให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้เต็มที่ เหมือนการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เห็นชอบแล้ว
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ศึกษาการให้กองทุนวายุภักษ์ ที่ขณะนี้มีสภาพคล่องประมาณ 1 แสนล้านบาท เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ที่จะจัดตั้งขึ้น โดยให้ สคร.ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะให้กองทุนวายุภักษ์ขายหุ้นที่ถืออยู่บางตัว เพื่อนำเงินมาซื้อไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ITD, CK, STEC, UNIQ ผ่านคุณสมบัติได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งราคางานรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มูลค่า 23,000 ล้านบาท เคาะราคา 8 ธ.ค.(โกลเบล็ก)
  • TOP(โกลเบล็ก)เป้า 68 บาท คาดกำไรปี 2558 ที่ 12,724 ลบ. +416%YoY จากแรงหนุน 3 ธุรกิจหลักธุรกิจโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวได้ดี และ ธุรกิจ Aromatic เริ่มกลับมาสร้างกำไรได้จากการปรับราคาขาย สำหรับธุรกิจน้ำมันเครื่องยังสามารถสร้างกำไรได้จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น และคาดโครงการ LABIX จะเริ่มดำเนินการใน 2Q59 ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นราว 6%
  • LIT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 9.70 บาท หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาหลังประกาศผลการดำเนินงาน 3Q15 ซึ่งแม้ว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามจากเป้าหมายการเติบโตเชิงรุกและการทำงานอย่างหนักของผู้บริหารในการหาตลาดและโอกาสใหม่ๆในการขยายสินเชื่อ Factoring และ E-Bidding ทำให้เชื่อมั่นว่า LIT ยังแสดงการเติบโตทั้งรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2016 ที่ระดับมากกว่า 30% Y-Y
  • GLOBAL(เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 13.5 บาท รูปแบบราคาหุ้นวานนี้ดีดทะลุแนวต้าน 10.6 บาท ขึ้นมาได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 12 บาท ประเมินแนวรับ 10.6 บาท ในเชิงพื้นฐานประเมินพ้นจุดต่ำสุด และจะเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ขณะที่ภาคการก่อสร้างที่จะกลับมาฟื้นตัวตามการลงทุนภาครัฐฯ และวางแผนลงทุนในลาวและพม่า ตรงกับธีมการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่ม CLMV

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ