NUSA เปิดโครงการแนวราบใหม่"NARATHON-สุวินทวงศ์" มูลค่ากว่า 1.6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 30, 2015 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ(NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่"NARATHON-สุวินทวงศ์" เป็นโครงการจัดสรรแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 96 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส มี จำนวนรวมทั้งโครงการ 674 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ.1,600 ล้านบาท พัฒนาในรูปแบบที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ครอบครัวสมัยใหม่ และ ครอบครัวใหญ่

ทั้งนี้ บ้านเดี่ยวนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ดิน 50-100.ตารางวา(ตร.ว.) มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 90-201 ตารางเมตร(ตร.ม)ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำราคาขายเริ่มต้นที่ 3.89 ล้านบาทต่อยูนิต ส่วนที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์นั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ดินขนาดตั้งแต่ 17-61 ตร.ว.ขนาดพื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำราคาขายเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการทั้งสวนหย่อม, คลับเฮาส์ ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชม.เป็นต้น

“ปัจจุบันการขยายตัวของเมืองสู่พื้นที่รอบนอกมากขึ้น หลังจากที่ดินในใจกลางเมืองราคาปรับขึ้นสูงทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มไม่สามารถที่จะซื้อที่อยู่อาศัยได้เนื่องจากราคาแพงจนเกินไปประกอบกับพฤติกรรมหรือความต้องการส่วนใหญ่ของผู้บริโภคที่เป็นคนไทยยังนิยมที่จะซื้อบ้านพร้อมที่ดินที่มีบริเวณเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย และ หากในอนาคตโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดให้บริการจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดที่อยู่อาศัยบริเวณรอบนอกหรือชานเมืองได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการจัดสรรแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์" นางศิริญา กล่าว

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นแบ่งเป็น 2ส่วนคือ ส่วนที่ 1.คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบมีกำหนดจะแล้วเสร็จปลายปี 58 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเดือน เม.ย.60 กำหนดเปิดให้บริการ เดือน ธ.ค.65 และส่วนที่ 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับแบบและรอเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติโครงการตามแผนการพัฒนาจะเปิดประกวดราคาปี 59 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเดือน ม.ค.60 กำหนดเปิดให้บริการเดือน ก.ย.65

นางศิริญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในย่านมีนบุรีในช่วงที่ผ่านมาแม้ราคาซื้อขายหรือราคาตลาดจะปรับเพิ่มขึ้นแต่หากเทียบทำเลอื่นๆยังถือว่าถูก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้ออสังหาฯหรือซื้อบ้านพร้อมที่ดินเพื่อรองรับอนาคตที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามการพัฒนาเมือง ดังนั้น การซื้อบ้านถือเป็นการลงทุน อีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถใช้อยู่อาศัยและยังเพิ่มมูลค่าในอนาคตอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ