(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งบวกตามตลาดภูมิภาค เล็งแรงหนุนจากทำ Cover short

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 1, 2015 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในแดนบวก เนื่องจากตลาดบ้านเราก็มีความกังวลที่มีหุ้นหลายตัวที่ถูกปรับลดน้ำหนักลงทุนจาก MSCI ทำให้เป็นแรงกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลง แต่ในช่วงท้ายตลาดฯมีแรงซื้อกลับเข้ามาที่ KBANK และ AOT ช่วยหนุนตลาดฯ อีกทั้งก่อนหน้านี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ถูกแรงขายออกมาค่อนข้างมาก ดังนั้นวันนี้ก็อาจจะมีการทำ Cover short ได้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างรีบาวด์กันขึ้นมาหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงหนัก หลังจากที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ อย่างไรก็ดีทิศทางตลาดฯยังมีความผันผวนได้จากปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งการประชุม ECB ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้, ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ, การประชุมโอเปค และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,352-1,367 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(30 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.92 จุด ลดลง 78.57 จุด(-0.44%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,108.67 จุด ลดลง 18.85 จุด(-0.37%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.41 จุด ลดลง 9.70 จุด(-0.46%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 51.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 38.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.87 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(30 พ.ย.58) 1,359.70 จุด ลดลง 3.43 จุด(-0.25%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,387.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(30 พ.ย.58) ปิดที่ 41.65 อลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(30 พ.ย.58)ที่ 10.02 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.82/84 นลท.รอติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ-ECB ในสัปดาห์นี้
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตลาดทุน โดยมีนายกฯ เป็นประธาน โดยในระหว่างนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีปลัดคลังเป็นประธาน เพื่อทำงานคู่ขนาน คาดว่าแผนปฏิรูปตลาดทุนจะนำเสนอให้กรรมการและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในสิ้นปีนี้ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีหน้าทันที
  • "นพพร เทพสิทธา" ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยการส่งออกของไทยในเดือน ต.ค. ที่ติดลบ 8.11% ถือว่าติดลบสูงสุดในรอบปี และคาดว่าในอีก 2 เดือนที่เหลือของ ปีนี้ มูลค่าส่งออกจะเฉลี่ย 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน หรือติดลบ 3% และจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปีติดลบ 5% สูงที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ขีดความสามารถการแข่งขันไม่ได้รับการพัฒนา จะต้องอาศัยรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาและปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแผนปฏิบัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 20 โครงการ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งลงทุนช่วงปี 2558-2565 โดยทั้ง 20 โครงการจะต้องผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญภายในปี 2559 คือ 1.การอนุมัติ 2.การประกวดราคา 3.เริ่มลงทุน
  • วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนในคดีที่บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป และบริษัท ทรู วิชั่นส์ เคเบิ้ล ยื่นฟ้องให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศเรียงช่อง ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ และขอให้ไต่สวนในคดี ที่ผู้ให้บริการจานดาวเทียมพีเอสไอและเจริญเคเบิลยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ด้วย
  • นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยดีที่หนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ได้แก่ 1.การใช้จ่ายภาครัฐ ที่เร่งตัวมากขึ้นในช่วงต้นปีงบประมาณ 2.การบริโภคภาคเอกชน หรือการใช้จ่ายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น จากกำลังซื้อนอกภาคเกษตรที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่กระเตื้องขึ้นจากสินค้าไม่คงทน
  • จับตา กบง. 3 ธ.ค.ขึ้นราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนธันวาคมหรือไม่ หลัง รมว.พลังงานยังไม่ฟันธงแต่แย้มอาจใช้เงินกองทุนฯ ที่มีอยู่ช่วย เหตุราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้น พร้อมมั่นใจชี้แจงศาลฯได้หลังกลุ่มประชาชนฟ้องกระทรวงพลังงานที่เห็นชอบขึ้นราคาแอลพีจีหน้าโรงกลั่น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GPSC(ไอร่า)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 30.50 บาท มีโอกาสที่จะเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญา MOA โดยมองว่า GPSC มีความได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่น สำหรับโครงการในเมียนมาร์ เนื่องจากมีกลุ่ม PTT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีการลงทุนในเมียนมาร์มาเป็นเวลานาน
  • CK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 36 บาท ให้เป็น Top pick ของกลุ่ม แม้ปรับลดกำไรปกติปีนี้เหลือเพียง 423 ล้านบาท -57% Y-Y แต่คาดกำไรโตก้าวกระโดด 138% Y-Y เป็น 1 พันล้านบาทในปี 2016 เพราะ 60% ของ Backlog ที่มีอยู่ 6.6 หมื่นล้านบาทจะรับรู้ปีหน้า ด้วย EBITDA margin ที่คาดว่าจะรักษาให้อยู่ในระดับ 9-10% ได้ และมีโอกาสได้งานเพิ่มจากรถไฟต่าง ๆ ที่จะประมูลอีก 2.5-5 แสนล้านบาทในปีหน้า กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรของ BEM (BECL+BMCL) ที่คาดว่า CK จะถือ 27% ซึ่งจะทำให้กำไรปกติมี upside อีกกว่า 40%
  • BIG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 2.30 บาท งาน Photo Fair 2015 เมื่อ 25-29 พ.ย. คาดทำรายได้ราว 100 ล้านบาทเพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้เพียง 60 ล้านบาท บวกกับ High Season เรามั่นใจว่ากำไร 4Q15 จะทำ New high อีกครั้ง ส่วนกำไรปี 2016 อาจสูงกว่าที่เราคาดว่าจะโต 9.7% Y-Y เพราะตลาด Mirrorless ยังโตแรง การลงมาทำตลาดนี้ของ Canon และ Nikon จะกระตุ้นตลาดให้โตเร็ว และมีแนวโน้มปิด Big Mobile ที่ขาดทุนปีละ 10-15 ล้านบาท ราคาปัจจุบันมี PE ปีนี้และปีหน้าเพียง 13-14 เท่า
  • SYNTEC (ยูโอบี เคย์เฮียน)สำหรับหุ้นรับเหมาขนาดเล็กตอนนี้มีเพียงตัวเดียวที่ราคายังถูกอยู่และเป็นหุ้นพื้นฐานดี ปันผลมั่นคงคือ SYNTEC มี margin สูงและมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ทำให้งบไตรมาส 4 จะดีต่อเนื่องจากงบไตรมาส 2และ3 ที่ดีอยู่แล้วโดยทั้งปี 58 การรับงานทั้งปีจะสูงใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาทถือว่าเติบโตชัดเจนจากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีแผนประมูลงานเพิ่มอีกในช่วงระยะสั้นนี้ได้แก่งาน CPN, NOBLE, SUPALAI บวกกับแผนการขยายส่วนต่อรถไฟฟ้าของรัฐบาลระยะยาวก็ช่วยให้มีการสร้างคอนโดเพิ่มและประมูลงานก่อสร้างเพิ่ม ทำให้มีรายได้มาเพิ่มระยะสั้นถึงยาวให้ SYNTEC

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ