(เพิ่มเติม) SIRI ตั้งเป้าปี 59 ยอดขาย 4.2 หมื่นลบ.-รายได้ 3.2 หมื่นลบ.เปิด 21 โครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 21, 2016 13:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ(SIRI)กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 59 ไว้ที่ประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มียอดขาย 2.85 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้รวมตั้งเป้าไว้ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท จากปี 58 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ราว 9-10% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่คาดว่าไม่ถึง 10% เนื่องจากปีก่อนบริษัทฯได้เร่งระบายสต็อกคงค้างออกไปค่อนข้างมากในช่วงต้นปี ทำให้อัตรากำไรสุทธิลดลงไป

"ปีนี้รายได้ของเราอาจจะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากปีก่อนบริษัทบันทึกรายได้พิเศษจากการขายที่ดินให้ BTS มูลค่าราว 800 ล้านบาท แต่หากเทียบกับรายที่มาจากผลประกอบการถือว่ายังอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งปีนี้ก็ถือว่ามีความท้าทายค่อนข้างมาก ซึ่งเราเชื่อว่าในช่วงที่ดีหรือไม่ดีก็ต้องมีโอกาสในการขยายตัว ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลดีมีทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)"นายเศรษฐา กล่าว

ในปีนี้บริษัทมีแผนโครงการใหม่ 21 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5.05 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 11 โครงการ บ้านเดี่ยว 7 โครงการ และ ทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ โดยมูลค่าโครงการใหม่สูงกว่าปีก่อน 128% คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าโครงการใน กทม.และปริมณฑล 92% และต่างจังหวัด 8% ซึ่งโครงการในต่างจังหวัดจะเป็นการพัฒนาต่อเนื่องในโครงการเดิมและที่ดินที่บริษัทเคยซื้อไว้ก่อนหน้านี้

พร้อมกันนั้น บริษัทยังเดินหน้ารุกขยายตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายลูกค้าต่างชาติในปีนี้ที่ 5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 3.5 พันล้านบาท สูงกว่าปี 57 ถึง 135% โดยเตรียมแผนเปิดตลาดใหม่ในจีน

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าโครงการรอโอนอยู่ในมือ (Backlog) ราว 38,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 11,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของเป้ารายได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีสต็อกอยู่ในมือ 8,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.หรือก่อนนโยบายกระตุ้นภาคอสังริมทรัพย์จะสิ้นสุดลง จะสามารถขายสต็อกออกไปได้ราว 4,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้บริษัทฯได้เตรียมงบซื้อที่ดินไว้ 9,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงได้ซื้อที่ดินค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา

"ปีที่ผ่านมาเราซื้อที่ดินมากกว่าปกติ เพราะแนวโน้นระคาที่ดินจะสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ปีนี้เราจะกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว"นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ราว 2,000 ล้านบาท เพื่อนำไปทำแทนหุ้นกู้ที่จะหมดอายุลงในเดือน ก.ค. และ ต.ค. แต่อย่างไรบริษัทจะขออนุมัติวงเงินการออกหุ้นกู้ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย.ราว 5,000 ล้านบาท

"เราจะขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท แต่เบื้องต้นคาดว่าจะออกราว 2,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบอายุ แต่หากว่าดอกเบี้ยมีความเหมาะสมเราก็อาจจะมีการพิจารณาออกเพิ่มเติม เพื่อลดต้นทุนทางการเงินลง"นายเศรษฐา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ