การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีปรับขึ้นทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,301.87 จุด และปรับลงทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,294.67 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 568 หลักทรัพย์ ลดลง 447 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 305 หลักทรัพย์
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ดูดีขึ้นหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดูไม่ค่อยดีนัก จากดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนม.ค. ลดลงจากระดับ 55.8 ในเดือนธ.ค. ตลาดฯจึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเร็ว และไปหนุนราคสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ให้ฟื้นตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่รีบาวน์ขึ้นภายหลังจากที่มีปัจจัยหนุนเพิ่มจากประเด็นที่ออกมาว่า ทางรัสเซียอาจจะเจรจากับทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยบวกได้น้อยกว่าประเทศอื่น เนื่องจากดัชนีฯยังคงติดแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,300 จุด และผลประกอบการของบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ก็ออกมาแย่กว่าคาด และยังมีการปรับลดนโยบายการจ่ายเงินปันผลด้วย ทำให้ไปกดดันตลาดฯ ดังนั้นจึงมองว่าตลาดฯคงจะใช้เวลาสักพักในการแกว่งไซต์เวย์แถว 1,300 จุด
ด้านตลาดในยุโรปที่มีการเปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนบวกกัน, ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าก็อยู่ในแดนบวก และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็เป็นบวกในช่วงบ่ายนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up โดยมีแนวต้าน 1,300-1,313 จุด หากผ่านระดับ 1,313 จุดไปได้ก็ถือว่าจบขาลงรอบสั้น และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,350 จุด แต่หากไม่ผ่านก็มีแนวรับที่ 1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,119.62 ล้านบาท ปิดที่ 166.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,912.12 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,567.19 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,552.78 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,426.41 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท