ส่วนหุ้น BIGC ปรับขึ้น 9.69% มาที่ 249 บาท เพิ่มขึ้น 22 บาท มูลค่าซื้อขาย 47.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.57 น.โดยเปิดตลาดที่ 248 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 250 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 248 บาท
ช่วงเช้าวันนี้ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) แจ้งว่าบริษัทได้รับแจ้งจากกลุ่มคาสิโนว่า Géant International BV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้เข้าทำสัญญาขายหุ้น BIGC ให้กับบริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นการซื้อและขายหุ้นทั้งหมดทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมทั้งสิ้น 483,077,600 หุ้น คิดเป็นจำนวน 58.56% ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัท ในราคาหุ้นละประมาณ 252.88 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.22 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์เช้านี้ว่า TCC Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เพิ่งสรุปเรื่องการซื้อหุ้น BIGC ในไทยจากกลุ่มคาสิโน บริษัทค้าปลีกของฝรั่งเศส โดย BJC ซึ่งมีแผนขยายธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต ก่อนหน้านี้ BJC หันมารุกธุรกิจ Cloud โดยเปิดธุรกิจบริการ Cloud และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ
BJC ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตขึ้น 10% ซึ่งยังไม่รวมการทำธุรกิจร่วมกัน หลังจาก TCCH ผู้ถือหุ้นใหญ่ BJC ได้ซื้อเมโทร เวียดนาม เรียบร้อยแล้วเมื่อ ม.ค.59 จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะฟื้นตัวจากปีก่อน อีกทั้งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคได้ชัดเจนในไตรมาส 1/59
ขณะที่ผลประกอบการปี 58 คาดว่าจะได้ปัจจัยหนุนจาก การรับรู้กำไรจากการซื้อกิจการ ภูไท กรุ๊ป ในเวียดนาม และดานอนแดรี่ บวกกับได้ประโยชน์ด้านต้นทุนวัตถุดิบ ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิปี 58 เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน
นอกจากนี้ BJC มีแผนเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักในกลุ่มประเทศ CLMV อยู่ระหว่างเจรจาดีลซื้อกิจการราว 10 ดีล ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจ เนื่องจากมี D/E Ratio อยู่ในระดับต่ำ และมีฐานทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท บวกกับมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศเป็น 50% จากเดิม 20%
สำหรับราคาเป้าหมายของหุ้น BJC เฉลี่ยจาก IAA Consensus 32.00 บาท