(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งในกรอบปัจจัยนอกปท.ไม่เอื้อ แต่แรงซื้อหุ้นปันผลหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 11, 2016 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากตลาดฯมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยเฉพาะตลาดฯที่พึ่งจะกลับมาเทรดวันนี้หลังหยุดทำการไปจะติดลบมากกว่าตลาดอื่น ไม่ว่าจะเป็นตลาดเกาหลีใต้, ตลาดฮ่องกง

สำหรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงให้เห็นว่าจะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวอยู่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นผลดีทำให้เม็ดเงินของต่างชาติมีโอกาสที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่ม TIP ได้สูง แต่อาจจะยังไม่รีบซื้อในขณะนี้เนื่องจากรอดูเศรษฐกิจของจีนก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็อิงกับเศรษฐกิจจีนมากอยู่เหมือนกัน ดังนั้น เม็ดเงินต่างชาติจึงอาจไหลเข้าไปพักไว้ที่ทองคำ

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้อยู่บ้าง เนื่องจากยังมีแรงซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลดี และการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของกองทุนก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้เม็ดเงินอาจเข้ามาที่ตลาดฯได้บ้าง ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเป็นรายตัวได้ โดยเน้นหุ้นที่ให้กำไรในปีนี้ดี และจ่ายปันผลดี

พร้อมให้แนวรับ 1,296-1,286 จุด ส่วนแนวต้าน 1,314 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,914.74 จุด ลดลง 99.64 จุด (-0.62%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,283.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.83 จุด (+0.35%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,851.86 จุด ลดลง 0.35 จุด (-0.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 801.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 45.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 25.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.19 จุด

ด้านตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ยังคงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาประเทศ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ก.พ.59) 1,304.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.78 จุด (+0.06%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,505.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ก.พ.59) ปิดที่ 27.45 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลบ 49 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ก.พ.59) ที่ 5.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.26 แนวโน้มยังแข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย
  • แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น (ทียูซี) และบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ได้เร่งติดต่อสถาบันการเงินทุกแห่ง รวมทั้งแบงก์รัฐ เพื่อขอเงินกู้ชำระเงินประมูลงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมหนังสือรับรองทางการเงินจากสถาบันทางการเงิน (แบงก์การันตี) เต็มจำนวนตามมูลค่าโครงการรวม 1.51 แสนล้านบาท เนื่องจากจะครบกำหนดต้องวางเงินในวันที่ 21 มี.ค.นี้
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน 66 องค์กร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสานพลังประชารัฐส่งเสริมเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และกิจการเพื่อสังคม โดยเบื้องต้นกระทรวงการคลังจะจัดตั้งกองทุนร่วมทุน 3,000-4,000 ล้านบาท และจะให้ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จัดเงินมาธนาคารละ 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจกลุ่มสตาร์ทอัพ
  • นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีทีวีดิจิทัลอีกประมาณ 5 ช่อง มีแนวโน้มไปไม่รอดและมีโอกาสคืนใบอนุญาตสูง หากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุญาตให้สามารถคืนใบอนุญาตได้นั้น มองว่าช่องที่มีความน่าจะเป็นไปได้สูงในการคืนใบอนุญาต คือ ทีวีดิจิทัลในหมวดหมู่เด็ก เนื่องจากเป็นหมวดหมู่ที่ขายโฆษณาได้ยาก เพราะมีข้อจำกัดในด้านของกฎหมายและการกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
  • ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สำหรับการนาเข้ามาเพื่อขายหรือการขายเพชร พลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก ไข่มุก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่
  • นักค้าเงินจากธนาคารพาณิชย์ ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำเข้าเข้ามาซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) เพิ่มขึ้นประมาณ 20% เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นหลุด 36 บาท/เหรียญสหรัฐ
  • กสทช.เล็งช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เลื่อนจ่ายค่าประมูลงวด 3 เปลี่ยนวันเริ่มนับใบอนุญาต คืนใบอนุญาต ใช้เงินกองทุนจัดเรตติ้ง 16 ก.พ.มั่นใจบอร์ดกล้าตัดสิน พิจารณารอบด้านมากกว่าใช้กฎหมาย ด้านทรูมูฟแจ้งขอจ่ายค่าประมูล 4จี แบงก์การันตีแล้ว ยันรายไหนไม่จ่ายเจอเพิกถอนทุกใบอนุญาต

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 24 บาท คาดประกาศผลประกอบการมีกำไรสุทธิ 1.88 พันล้านบาท (EPS 0.12 บาท) ใน 4Q15 คงที่ yoy แต่ลดลง 10%qoq โดย EBITDA Margin น่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2 โรงพยาบาลใหม่ที่น่าจะมี EBITDA เป็นบวกได้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม เดือน ม.ค. รายได้เติบโต 7%yoy ค่อนข้างน้อย โดยปรับประมาณการลง 1-3% สำหรับ CY16-17
  • THCOM (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 47 บาท ไตรมาส 4/58 กำไรสุทธิ 744 ล้านบาท EPS 0.68 บาท (+75% yoy, +181% qoq) ดีกว่าที่ตลาด สูงสุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัท โดยหากตัดรายการพิเศษออกกำไรปกติอยู่ที่ 685 ล้านบาท เติบโต 53% yoy และ 6% qoq เป็นผลจาก Thaicom 7 มีอัตราการใช้งานเต็ม 100% และส่วนแบ่งผลกำไรที่แข็งแกร่งจาก Lao Telecoms (LTC) บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.65 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 1 เม.ย.59 คาดราคาหุ้นจะรับแรงหนุนยอดขาย(Presales) ช่องสัญญาณ Thaicom 8 และความคืบหน้าในการจัดการเพิ่มอัตราการเช่าช่องสัญญาณของดาวเทียม Thaicom 4 และ 6
  • KTB (โกลเบล็ก) เป้า 20 บาท คาดกำไรปี 59=3.18 หมื่นลบ.(+12% YoY) จากสินเชื่อที่เติบโตขึ้น 3-4% NIM ทรงตัวที่ระดับ 2.6% Non interest income +10% และฐานะเงินกองทุนแกร่งที่ 15.83% และ Tier 1 เท่ากับ 12.4% และได้ประโยชน์จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปี 59 เนื่องจากมีสินเชื่อภาครัฐสัดส่วนสูง อีกทั้ง AQ (เดิม KMC) ศาลฯสั่ง KMC จ่าย 1 หมื่นลบ.คืนหนี้ให้กับ KTB รวมทั้งโดดเด่นที่ Yield สูงราว 5%
  • GL (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ตั้งเป้าปล่อยกู้ปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท โต 100% จากปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท มาจากธุรกิจในต่างประเทศ คือ กัมพูชา, ลาว และอินโดนีเซีย ตั้งเป้าโครงสร้างสินเชื่อสิ้นปีเป็นต่างประเทศ 1.4 หมื่นล้านบาท, ในประเทศ 5 พันล้านบาทและจากบริษัทย่อยธนบรรณ (สินเชื่อรถจักรยานยนต์มือสอง) 1 พันล้านบาท มองตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องจักรกลการเกษตรในต่างประเทศมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
  • AAV (ไอร่า) เป้า 6.70 บาท ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ทำให้ลดสัดส่วนการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันในปี 59 เหลือเพียง 24% จากที่สูงถึง 50% ในปี 58 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยเชื้อเพลิงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าปัจจัยความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นในปี 59 ค่อนข้างต่ำ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ