(เพิ่มเติม) ASN เคาะราคา IPO ที่หุ้นละ 6 บาท เสนอขาย 27-29 เม.ย.นี้ คาดเข้าเทรด 12 พ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 26, 2016 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือ 23.08% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 6 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อในช่วงวันที่ 27-29 เม.ย. และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 12 พ.ค.นี้

วันนี้ ASN แต่งตั้ง บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ร่วมกับ บล.ฟินันเซีย ไซรัส และ บล.ทรีนิตี้

นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ ASN กล่าวว่า ราคาเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าวเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะเป็นราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน พร้อมมีส่วนลดให้นักลงทุนในระดับที่ดี ขณะที่มั่นใจว่าธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมประกันภัยและประกันชีวิตในประเทศไทย และการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce และ ดิจิตอล อินชัวรันซ์ ซึ่งการพัฒนา Platform E-Commerce จะทำให้ ASN สามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกกลุ่มและครบวงจร ถือเป็นการพลิกโฉมธุรกิจของบริษัทสู่ดิจิตอล โบรกเกอร์ อย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ ASN เติบโตอย่างโดดเด่นและยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เพิ่มจำนวนพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ (Tele sale) จำนวน 100 คน เพื่อเพิ่มพนักงานในส่วนนี้เป็น 300 คน จากปัจจุบัน 200 คน ซึ่งจะต้องใช้วงเงินราว 12 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังวางงบลงทุนไว้ที่ 75 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบซื้อขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ช) ภายใต้แบรนด์ใหม่ คาดว่าจะเปิดให้บริการซื้อขายได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/59 หรือต้นไตรมาส 3/59 ซึ่งจะมีบริการเต็มรูปแบบในกลุ่มสินค้าประกันทุกประเภทขายอย่างครบถ้วนในไตรมาส 4/59

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)กล่าวว่า ราคาที่เสนอขายหุ้น IPO ที่ 6.00 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) อยู่ที่ประมาณ 31.68 เท่า เปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ย้อนหลัง 12 เดือน ที่อยู่ที่ 58.04 คิดเป็นส่วนลดประมาณ 45%

ทั้งนี้ คาดว่า P/E ของ ASN ในปีหน้าจะเปลี่ยนไปได้อีกมาก จากการขยายธุรกิจต่อยอดธุรกิจและแนวโน้มการเติบโต จากการนำเม็ดเงินจากการขาย IPO ที่ได้รับไปใช้ใน 2โครงการหลัก คือ 1)โครงการพัฒนาระบบ E-Commerce ที่จะเป็นการต่อยอดการพัฒนา Platform ในการขายประกันออนไลน์อย่างครบวงจร สามารถเสนอบริการ One Stop Service ให้แก่ลูกค้าได้ตั้งแต่การค้นหาข้อมูลด้านประกัน การเปรียบเทียบ การสั่งซื้อ การชำระเงิน รวมไปถึงการรับกรมธรรม์ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยจะมีผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเลือกซื้ออย่างหลากหลายและตรงตามความต้องการในราคาที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/59

และ 2)โครงการขยาย Seat พนักงานขายทางโทรศัพท์ อีก 100 Seat ซึ่งจะทำให้รายได้จากช่องทางการขายเดิมของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2/59 ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างโดดเด่นในปี 59 และเติบโตต่อเนื่องระยะยาว

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากทิศทางการเติบโตที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่นจากการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce และ ดิจิตอล อินชัวรันซ์ ที่สอดรับการการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิตอล ที่หันมาซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปัจจุบันธุรกิจ E-Commerce มีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 59 มูลค่าตลาด E-Commerce - B2C จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 230,000-240,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 15-20% จากปี 58 รวมถึงกระแสฟินเทค (Financial Technology) ที่กำลังมาแรงในขณะนี้

ในขณะที่พฤติกรรมการทำประกันจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ซึ่งจากผลสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกของบริษัท Bain & Company คาดว่าผู้บริโภคจะมีการทำธุรกรรมด้านประกันผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นจากประมาณ 35-70% ในแต่ละประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 79% นอกจากนี้ปัจจัยที่สำคัญคือการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมประกันภัยและประชีวิตในประเทศไทย ที่ตลาดมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์และ ประกันชีวิตรวมกว่า 6 แสนล้านบาท โดยถือเป็นโอกาสที่บริษัทฯจะเพิ่มส่วนแบ่งจากตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลนี้ตามแผนการลงทุนในการพัฒนา Platform E-Commerce และแผนการเพิ่ม Seat ของพนักงานขายทางโทรศัพท์

นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ASN กล่าวว่า ASN เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่สูกว่า 35% ในขณะที่มี ROA และ ROE อยู่ในระดับที่โดดเด่นโดยในปี 58 ROA เท่ากับ 27.83% และ ROE 56.59% ตามลำดับ ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ASN ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนจำนวน 65 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้วทั้งหมด 50 ล้านบาท มีจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 58 รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยมีทั้งสิ้น 161 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เท่ากับ 35.9% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เท่ากับ 15.30% มีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม 106 ล้านบาท และ 43 ล้านบาทตามลำดับ โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.68 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ