ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,411.84 จุด ลดลง 6.94 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 37,452.50 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,423.15 จุด และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,409.17 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 395 หลักทรัพย์ ลดลง 723 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 299 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ต่างก็อ่อนตัวลง ภายหลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้มีแรง take profit ออกมาบ้าง นอกจากนี้ยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ด้วย แม้ว่าน้ำหนักในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะแผ่วลงเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราช่วงนี้ไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา และยังเป็นช่วงรอยต่อของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่งเป็นช่วงของการรอคอยงบฯออกมา ตลาดฯจึงดูไม่คึกคัก แต่ก็ยังมีสภาพคล่องไปลงทุนที่หุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กอยู่ แต่ก็ทำให้ดัชนีฯไปไหนได้ไม่ไกล แต่ตลาดฯก็ยังมีการเล่นหุ้นพวก Commodity, กลุ่มเกษตร, ท่องเที่ยว และค้าปลีก ซึ่งราคาหุ้นก็ยังไปได้เรื่อย ๆ เนื่องจากคาดการณ์กันว่างบฯจะดี และก็ยังได้ผลบวกจากเข้าสู่ฤดูกาลด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวแคบ และอาจจะไปคึกคักในช่วงต้นเดือนหน้าที่จะมีการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,404 จุด ส่วนแนวต้าน 1,416-1,436 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,878.80 ล้านบาท ปิดที่ 303.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,755.49 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,251.50 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,175.10 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,153.96 ล้านบาท ปิดที่ 492.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท