ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,404.61 จุด เพิ่มขึ้น 4.70 จุด(+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 40,289.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,404.61 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,394.25 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 532 หลักทรัพย์ ลดลง 532 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 321 หลักทรัพย์
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พลิกปิดบวกได้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะ 1-2 วันที่ปรับลงมาเป็นเรื่องของ sentiment ซึ่งปกติถ้าตลาดลงเพราะตกใจหรือ sentiment สุดท้ายก็ต้องปรับขึ้นไปหา Fundamental และมองระดับดัชนี 1,400 จุด น่าจะเป็นระดับที่ดัชนียืนได้
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบเพราะโดยรวมตลาดจะใกล้วันหยุดยาว เม็ดเงินลงทุนคงไม่มาก ปริมาณการซื้อขายโดยรวมไม่โดดเด่น การเก็งกำไรก็เลือกเป็นรายตัว ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวไซด์เวย์ค่อนข้างแคบ
ปัจจัยที่ผ่านมาตลาดผิดหวังผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งโนมูระฯให้น้ำหนักการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจะเกิดในการประชุมเดือนก.ค.นี้ โดยตลาดช่วงนี้อยู่ในฤดูประกาศผลประกอบการของแต่ละประเทศ ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในช่วงผลประกอบการในกลุ่ม real sector การเก็งกำไรผลประกอบการในประเทศจึงเป็นตัวช่วยประคองดัชนีไว้ ขณะที่การลงทุนของ Fund flow ดูไม่ชัดเจนอาจเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของไทย
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,166.84 ล้านบาท ปิดที่ 4.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท
SUPER มูลค่าการซื้อขาย 2,999.66 ล้านบาท ปิดที่ 1.84 บาท ลดลง 0.12 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,663.85 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,467.83 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท ลดลง 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,293.16 ล้านบาท ปิดที่ 166.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท