นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะเติบโตขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จำนวนมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1.8 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
อีกทั้งการผลักดันให้ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วยคุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและการขยายฐานผลิตภัณฑ์ไปยังภาคตะวันออก รวมถึงกลยุทธ์ในการบริหารงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในองค์กรอีกด้วย จากประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพโดยตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7-8% จากปีก่อนที่ทำได้ 5%
"บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจด้วยการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องจากโรงงานปัจจุบันที่ได้ทำการผลิตเต็มกำลังการผลิตแล้ว โดยจะส่งผลให้บริษัทสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ อีกทั้งเกิดโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และปัจจัยสนับสนุนจากภายนอกที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรภายในที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งและนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ต่อไป"นายธิติพงศ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/58 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 31% มาที่ 357 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในช่วงต้นปี 59 และการปรับตัวของภาคธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่มีทิศทางดีขึ้น แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมลดลง เนื่องจากบริษัทได้จำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทย่อยเมื่อในช่วงไตรมาส 3/58 เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจ ส่งผลให้มีการรับรู้รายได้ลดลง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสภาวะการแข่งขันด้านราคาขายสูง และลูกค้าบางรายชะลอโครงการก่อสร้างหรือชะลอการส่งมอบงาน