ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,385.86 จุด ลดลง 14.64 จุด (-1.05%) มูลค่าการซื้อขาย 40,087.61 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,400.97 จุด และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,384.12 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 329 หลักทรัพย์ ลดลง 814 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 276 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวลงกันทั่วหน้า รวมไปถึงดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ติดลบด้วย
ทั้งนี้ เป็นผลจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นด้วย เพราะเกรงว่าสินค้าโภคภัณฑ์จะถูกขายออกมาจึงชิงขายก่อน รวมไปถึง Bond Yield ของสหรัฐฯก็ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงมามากสุดในรอบ 2 เดือน และมีกระแสข่าวว่าพันธบัตรไทยก็ถูกขายออกมา 5 วันติดต่อกันแล้ว จึงทำให้ตลาดเกิดความวิตก
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า หากดัชนีฯหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,380 จุด ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปต่อ เพราะจะทำให้เกิดแรง Profit taking ตามมา ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามากแล้ว อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และสื่อสาร พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,965.91 ล้านบาท ปิดที่ 303.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,859.34 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,592.43 ล้านบาท ปิดที่ 4.60 บาท ลดลง 0.14 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,481.53 ล้านบาท ปิดที่ 75.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,277.84 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 1.00 บาท