(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ตามภูมิภาค หลังยอดขายบ้านใหม่สหรัฐดีกว่าคาด-ราคาน้ำมันฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 25, 2016 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ามีโอกาสรีบาวน์ขึ้นได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่เช้านี้ปรับตัวขึ้นในแดนบวกทั้งหมด หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.แข็งแกร่งและดีกว่าที่ตลาดาดการณ์ไว้มาก ประกอบกับราคาน้ำมันกลับมาฟื้นตัวได้ หลังปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 วัน

โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือตัวเลขการส่งออกของไทยที่จะมีการประกาศออกมาในวันนี้ และคืนวันศุกร์จะมีการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/59 ของสหรัฐและคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุดบวก/ลบ ส่วนแนวต้าน 1,390-1,394 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,706.05 จุด พุ่งขึ้น 213.12 จุด (+1.22%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,861.06 จุด เพิ่มขึ้น 95.28 จุด (+2.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.06 จุด เพิ่มขึ้น 28.02 จุด (+1.37%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 265.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 326.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 52.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 35.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.17 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ค.59) 1,384.26 เพิ่มขึ้น 2.57 จุด(+0.19%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 382.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 พ.ค.59) ปิดที่ 48.62 ดอลลาร์/
บาร์เรล เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ค.59) ที่ 6.02 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.75/76 ทิศทางยังอ่อนค่ารอดูตัวเลขเศรษฐกิจ-ผลประชุมเฟด ลุ้นทดสอบ 35.80
  • พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 2 โดยปรับลดกรอบวงเงินตามแผนบริหารหนี้จาก 1.74 ล้านล้านบาท เหลือ 1.67 ล้านล้านบาท หรือลดลง 6.81 หมื่นล้านบาท โดยหนี้ที่ลดลงดังกล่าวเป็นผลจากโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 2 โครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ได้เปลี่ยนจากการกู้ไปเป็นการใช้งบประมาณรายปี และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ เปลี่ยนไปใช้วิธีการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (พีพีพี) จึงลดการก่อหนี้สาธารณะได้
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถือว่ามีความเข้มแข็งในระดับหนึ่ง โดยไตรมาสแรกเติบโตได้ 3.2% แต่ในระยะต่อไป ยังมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปัจจัยในต่างประเทศ อาทิ อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป เยอรมนีอาจถูกโดดเดี่ยวจากภาคียุโรป หรือเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ส่วนในประเทศยังมีปัจจัยด้านการเมืองที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะต่อไป ขณะที่ภาครัฐต้องปรับตัวขับเคลื่อนประเทศ เปลี่ยนจากการกำกับดูแลมาสนับสนุน และปล่อยให้เป็นกลไกเสรีมากขึ้น
  • ธปท.เผยธุรกรรมโอนเงินผ่านระบบบาทเนตในระบบมีปริมาณทั้งสิ้น 3.09 แสนล้านบาท มูลค่า 65.9 ล้านล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น แต่มูลค่ากลับหดตัวลง ผลจากธุรกิจรายย่อยเริ่มสั่งจ่ายมากขึ้น แต่ยังไม่มากพอ พบธุรกรรมโอนเงินให้นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าสูงขึ้น 15.8%
  • บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ครึ่งปีหลังยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยคาดว่าแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวดีขึ้น ทำให้ทั้งปียอดปล่อยสินเชื่อจะเพิ่มขึ้น 4-6% เนื่องจากหลังจากเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกเติบโตดีเกินคาด จะทำให้สินเชื่อภาคธุรกิจฟื้นตัว ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาวของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ล้อไปโครงการลงทุนภาครัฐ ขณะที่สินเชื่อรายย่อย คาดว่าจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยในลูกค้าระดับกลาง บน ที่เป็นลูกค้าหลักของธนาคาร และสินเชื่อเช่าซื้อน่าจะดีขึ้น หลังผลกระทบจากโครงการรถคันแรกเริ่มลดลง และราคารถมือสองผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) ได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาร์เรล นอกจากนี้ THAI จะมีการประชุมนักวิเคราะห์ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค. 59) ซึ่งคาดว่ามีมีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมดังกล่าว
  • HANA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 35 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 25% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาสะท้อน 1Q59 ไปแล้ว ปัจจุบันมี PE เพียง 11.4 เท่า และให้ Dividend yield 6.6% โดยผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้วใน 1Q59 แต่ 2Q59 ยังถูกกระทบจากการที่ลูกค้าอยู่ในช่วงระบายสินค้าในสต็อก ก่อนจะกลับมา Restock อีกครั้งใน 2H59 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังการผลิตส่วนต่อขยายของสินค้า IC ของบริษัทเริ่มเดินเครื่อง รวมทั้งโรงงานที่กัมพูชา (มีลูกค้าแล้ว 2 ราย) น่าจะได้รับการรับรอง ISO ราว ก.ค. พร้อมปรับกำไรปกติปีนี้ลง 16% เป็น -6.5% Y-Y สะท้อนกำไร 1Q59 ที่อ่อนแอกว่าคาด
  • RML (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร" เพราะราคาหุ้นที่ laggard ทำให้ PE ต่ำเพียง 6.5 เท่า ต่ำกว่า PE เฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่ที่ 9 เท่า RML มีแผนงานที่ชัดเจนขึ้นสำหรับคอนโดแบรนด์ใหม่คือ The Lofts ซึ่งการขาย The lofts ทั้ง 2 แห่งอยู่ในเกณฑ์ดีพอควร (เอกมัย ขายได้แล้ว 89% และอโศกขายได้ 30%) ขณะที่ Backlog ปัจจุบันรองรับเป้ารายได้ปีนี้ที่ 5 พันล้านบาท แล้วถึง 93% กรอบการเก็งกำไร โดยให้ PE 7-8 เท่า เท่ากับ SIRI คิดเป็นราคา 1.60-1.70 บาท ยังไม่แนะนำซื้อลงทุนเพราะภาพ Macro ไม่อำนวย และ Backlog ปีหน้ายังไม่สูง อยู่ที่ 2 พันล้านบาทเท่านั้น
  • PTTGC (โกลเบล็ก) เป้า 71 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท +19%YoY จากค่าการกลั่นและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์มีผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมคาด Q2/59 มี Stock Gain จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์มูลค่าราว 5.7 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐได้ข้อสรุปต้นปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ