RICHY คาดยอดขาย-รายได้-กำไร Q2/59 สูงขึ้น YoY และ QoQ จากเปิดโครงการใหม่-ยอดโอนเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 26, 2016 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ในด้านยอดขาย รายได้ และกำไร คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 1/59 ซึ่งในส่วนของยอดขายเป็นผลมาจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ คือ โครงการ ริชพาร์ค แอท ทริปเปิ้ล สเตชั่น มูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.8-3 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งมีกำหนดเปิดพรีเซลในวันที่ 28 พ.ค. 59 โดยบริษัทวางเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 60-70% ในวันเปิดขายพรีเซล โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการเปิดแสดงความสนใจและจ่ายเงินจองก่อนวันพรีเซล ซึ่งมีผู้ที่สนใจเข้ามาจองเป็นจำนวนมาก

โดยโครงการดังกล่าวมีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยโครงการติดรถไฟฟ้า 3 สาย เพียง 100 เมตร จากแอร์พอร์ตลิงก์ (AirportLink) สถานีหัวหมาก ที่สำคัญในปี 63 ด้านหน้าโครงการจะเป็นจุดขึ้น-ลงบันไดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการ และฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นสถานีหัวหมาก ของรถไฟฟ้าสายสีแดง

ขณะที่โครงการ เดอะริช นานา ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้เดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศบาห์เรน ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม และเตรียมเปิดพรีเซลในช่วงเดือนมิ.ย.นี้

"มั่นใจว่าทั้ง 2 โครงการที่มีการพรีเซล ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ยอดขายน่าจะทะลุ 50% เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด และในอนาคตจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้อยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อการลงทุนได้อย่างแน่นอน และบริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้"นางอาภา กล่าว

นางอาภา กล่าวว่า ด้านรายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาส 2/59 ที่คาดว่าจะสุงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการโอนโครงการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการโอน 3 โครงการคอนโดมิเนียม ได้แก่ โครงการริช พาร์ค แอท เจ้าพระยา โครงการริชพาร์ค แอท เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ และโครงการริช พาร์ค แอท บางช่อนสเตชั่น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในด้านยอดขายและกำไรในไตรมาสนี้ รวมถึงปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 970 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในปีนี้ 332 ล้านบาท จะทำให้รายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 1 พันล้านบาท

“สำหรับยอดขายของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 40% ของมุลค่าโครงการที่เปิดขายในปีนี้ที่ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งเรามั่นว่ายอดขายก็คงจะทำได้ตามเป้าหมาย เพราะเรายังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พร้อมเปิดขายในสิ้นเดือนพฤษภาคมและเดือนกรกฎาคม มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งเราก็ตั้งเป้ายอดขายรวมมากกว่า 50% ส่วนด้านรายได้เราก็มั่นใจไว้ที่ 1 พันล้านบาท เพราะปีนี้เราเน้นขายโครงการที่สร้างเสร็จและเหลือขาย โดยตอนนี้เราสต็อกอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท ก็จะทยอยขายออกไป และตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิกลับมาอยู่ในระดับ 10% จากปีก่อนที่ลดลงมาอยู่ที่ 7.71%"นางอาภา กล่าว

ด้านแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ยังคงแผนเดิมที่เปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่าราว 9 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8.3-8.4 พันล้านบาท ซึ่งมี 2 โครงการที่เตรียมเปิดขายแล้ว คือ โครงการริชพาร์ค แอท ทริปเปิ้ลสเตชั่น มูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท และโครงการเดอะริช นานา มูลค่าโครงการ 3.7 พันล้านบาท และอีก 1 โครงการคอนโดมิเนียมบริษัทได้ซื้อที่ดินมาแล้วเมื่อเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ และคาดว่าจะเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนโครงการแนวราบในปีนี้จะมีเปิดอีก 1 โครงการ มูลค่า 600-700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการมองหาซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนา และจะเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน

ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 1-2 พันล้านบาท แหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและเงินจากการออกหุ้นกู้ โดยการประชุมผุ้ถือหุ้นประจำปี 2559 ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่การศึกษาระยะเวลาที่เหมาะสมในการออกหุ้นกู้ โดยจะต้องสอดคล้องกับการซื้อที่ดินที่บริษัทสนใจ คาดว่าจะมีการทยอยออกเป็นรอบเพื่อนำมาใช้ชำระค่าที่ดิน

สำหรับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 20% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 58 แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 40% โดยสาเหตุที่เพิ่มขึ้นมาจากธนาคารต่าง ๆ ระมัดระวังการปล่อยกู้มากขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจนที่จะฟื้นตัวขึ้น และปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ส่งต่อเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ