(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้โมเมนตัมเป็นบวก แต่คาดตลาด Wait & See ปัจจัยสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 27, 2016 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวก แต่ดัชนีฯคงจะแกว่งตัวขึ้น-ลงในลักษณะ Wait & See เพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 1/59 ของสหรัฐ และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้ด้วย

ส่วนบ้านเราต้องติดตามการประมูลคลื่น 900 MHz ในวันนี้ด้วย แม้ว่าจะมีผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียวก็ตาม ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 50 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว ซึ่งก็คงจะทำให้กลุ่มพลังงานช่วยพยุงตลาดฯได้บ้าง แต่เชื่อว่านักลงทุนคงมองหาปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามามากกว่า

พร้อมให้แนวรับ 1,394 จุด ส่วนแนวต้าน 1,411 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,828.29 จุด ลดลง 23.22 จุด (-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,901.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด (+0.14%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.10 จุด ลดลง 0.44 จุด (-0.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 58.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 27.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.47 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.02 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 พ.ค.59) 1,401.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด (+0.29%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 525.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 พ.ค.59) ปิดที่ 49.48 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 พ.ค.59) ที่ 5.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.57/59 ยังมีโอกาสอ่อนค่า จับตาสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ย-ตัวเลข GDP สหรัฐฯ
  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับสมาคมธนาคารไทย เพื่อปรับแก้โครงสร้างค่าธรรมเนียมการบริการทางการเงินของไทยทั้งระบบให้เกิดความสมดุลมากขึ้น โดยคณะกรรมการชุดใหญ่ของสมาคมธนาคารไทยที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้วจะรับไปดำเนินการ
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยนับจากนี้ ผู้ประกอบการจะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงมาก โดยมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ 100 โครงการ รวม 23,710 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 22% แบ่งเป็น บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ 50 โครงการ รวม 9,880 หน่วย ลดลง 30% และอาคารชุดเปิดตัวใหม่ 40 โครงการ รวม 13,830 หน่วย ลดลง 16%
  • รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยระหว่างการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) กับกองทุนต่างประเทศที่ฮ่องกงและญี่ปุ่น วันที่ 24-27 พ.ค.นี้ ว่า สถาบันต่างชาติส่วนใหญ่ให้ความสนใจสอบถาม 2 ประเด็นหลัก คือ ภาพเศรษฐกิจไทยโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง ตลท.ตอบว่า ไตรมาสแรก ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนถือว่าออกมาดีกว่า ขณะที่ประเด็นการเมืองก็สอบถามถึงการเลือกตั้ง ซึ่งก็ชี้แจงว่าตามโรดแมปเดือน ส.ค. อยู่ระหว่างการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และจะมีการเลือกตั้งในปี 2560
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก จากนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักเห็นได้จาก 1 เดือนกว่าที่ผ่านมา จะเห็นความผันผวนในตลาดพันธบัตร ค่าเงิน รวมทั้งการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ ทำให้ช่วงระหว่างนี้คงมีความผันผวนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินควรปิดความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงิน เพราะความผันผวนยังเกิดขึ้นได้ทั้งสองทิศทาง
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ผลสำรวจดัชนีความสามารถการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ประจำไตรมาส 1/59 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,450 ตัวอย่าง พบว่า ค่าดัชนีอยู่ที่ 48.4 ลดลงจากไตรมาส 4/2558 และคาดว่าในไตรมาส 2 จะปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 48.1 ขณะที่ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจอยู่ที่ 51.1 ลดลงจากไตรมาสก่อน 0.06 จุด มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 50.8 ในไตรมาส 2 เช่นเดียวกับยอดขายและ รายได้ที่ยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
  • กระทรวงการคลัง เผยผลจัดเก็บรายได้รัฐบาล 7 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2559 อยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 7.05 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% ปัจจัยหลักจากประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) ส่วนแวตยังเดี้ยง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BRR (ไอร่า) เป้า 16.30 บาท ภายใต้คาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลทรายโลกปี 2558/59 ลดลง ล่าสุดสัญญาน้ำตาลดิบส่งมอบ - ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.26 เซนต์ หรือ 1.5% อยู่ที่ 17.42 เซนต์/ปอนด์ ทำจุดสูงสุดใหม่นับแต่ก.ค.57 ซึ่งอยู่ที่ 17.29 เซนต์ BRR มีแผนเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกอ้อยเป็น 3 แสนไร่ จากปัจจุบัน 2 แสนไร่ ทำให้คาดปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้น 8% ต่อปี (ภายใต้สมมติฐานผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยที่ 1.19) ทำให้สามารถส่งออกน้ำตาล (โควต้า ค.) ได้มากขึ้น ช่วยหนุนให้ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
  • PACE (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 4.4 บาท ธุรกิจอสังหาฯเริ่มมีความคืบหน้า โดยในไตรมาส 2/59 เริ่มมีการโอนโครงการมหานครบางส่วนแล้ว (แต่ประเมินว่ายังมีโอกาสขาดทุนสุทธิ) และในไตรมาส 3/59 จะพลิกเป็นกำไรจากการเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนโครงการดังกล่าว (ประมาณการฯคาดการโอนใน 2H59 ไว้ที่ 6 พันล้านบาท) และที่เหลืออีกราว 8.5 พันล้านบาทในปี 2560 ส่วนโครงการอื่นๆ (มหาสมุทร + นิมิตหลังสวน) ยังเดินหน้าตามแผน และมีโครงการใหม่คือ โครงการที่ถนนนราธิวาสและโครงการที่ประเทศญี่ปุ่น (รวม 6.8 พันล้านบาท)
  • BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 13.30 บาท คาดปี 2016 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากการโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย ทั้งนี้ได้ปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย) พร้อมเตรียมนำ BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.ในช่วง 2H59 ซึ่งจะช่วยชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ