(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวรอติดตามหลายปัจจัยจากนอกประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2016 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในลักษณะซึมตัว แม้ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนจะออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ก็ยังต้องติดตามการประชุมโอเปค การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ติดลบเล็กน้อย

ด้านเศรษฐกิจในประเทศมองว่ายังดีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาฯที่คาดว่าจะมีการประมูลโครงการสำคัญในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนกลุ่มแบงก์ได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยที่พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ก็ยังปรับขึ้นด้วย

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ 1,415-1,430 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,787.20 จุด ลดลง 86.02 จุด (-0.48%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,948.06 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด (+0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.96 จุด ลดลง 2.10 จุด (-0.10%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 137.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 88.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 19.51 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.67 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 พ.ค.59) 1,424.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด (+0.01%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,571.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 พ.ค.59) ปิดที่ 49.10 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 พ.ค.59) ที่ 5.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.69/71 มองกรอบเดิม 35.60-35.80 หลังยังไม่ผ่านแนวต้านที่ 35.80
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ระบุไทยพร้อมเข้าเป็นสมาชิกหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) หากเปิดรับสมาชิกใหม่เพิ่มเติมเมื่อใดประเทศไทยจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกทันที พร้อมทั้งจะขอเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิก TPP อย่างญี่ปุ่น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ไหลออกสุทธิรวม 2,477 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาสแรกไหลออก 1,931 ล้านเหรียญสหรัฐ และเดือน เม.ย.ไหลออก 546 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทั้งปี 2558 มีเงินไหลออก 1.81 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  • ครม.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ.59 เพื่อปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล นำค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายในการลงทุนเครื่องจักรและอาคารถาวรระหว่างวันที่ 3 พ.ย.58-31 ธ.ค.59 นำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 2 เท่า แม้ว่าจะไม่สามารถติดตั้งเครื่องจักรและสร้างอาคารจนอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ทันภายในวันที่ 31 ธ.ค.59 ก็ตาม
  • นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนมมูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่มมูลค่า 7,500 ล้านบาท นมถั่วเหลืองมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และนมพร้อมดื่มปรุงแต่ง อาทิ ช็อกโกแลต ที่ต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ส่วนนมพร้อมดื่มรสจืด 1.4 หมื่นล้านบาท ไม่ได้รับผลกระทบ
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ในเดือน เม.ย.59 มีอัตราการขยายตัว 1.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลิตของอุตสาหกรรมหลักสำคัญ เช่น รถยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและเหล็กกล้า น้ำมันปิโตรเลียม ปรับตัวเพิ่มขึ้น มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 58.43% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 57.89%
  • แบงก์ชาติมองช่วงไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นการฟื้นตัวโดดเด่นและยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งใน-นอกประเทศอยู่มาก ส่วนภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.ยังคงขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ระบุลงทุนอยู่ระดับต่ำร่วม 10 ปี ห่วงฉุดความสามารถการแข่งขันของไทย พบมีเงินทุนไหลออกไทยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
  • อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลละ 5 ล้านบาท วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท พบว่า การเบิกจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558-27 พ.ค. 2559 มีการก่อหนี้รวม 3.44 หมื่นล้านบาท หรือ 94.87% และมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 2.83 หมื่นล้านบาท หรือ 78.28%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KCE (โกลเบล็ก) เป้า 91 บาท ปี 59 คาดกำไรก้าวกระโดดเป็น 2,792 ล้านบาท +24%YoY จากการเปิดใช้โรงงานใหม่เฟส 2 ตั้งแต่ 1Q59 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและสามารถผลิตสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ประโยชน์จาก PCB ที่ใช้ในอุตฯยานยนต์มีการเติบโตและ Demand สูง เนื่องจากเปลี่ยนมาใช้ระบบ Electronic แทนระดับ Mechanic ทั้งนี้ KCE มีลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ราว 70% และเตรียมลงทุน 35 ล้านUSD. เดินเครื่องโรงงานเฟส 3 ในช่วง 3Q59 นอกจากนี้ คาดเข้าคำนวณ SET 50 รอบใหม่ที่จะประกาศกลางมิ.ย.
  • PTT (โกลเบล็ก)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 322 บาท ธุรกิจก๊าซมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซฯต่ำและไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซฯเหมือนไตรมาส 1 อีกทั้งราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหนุนธุรกิจสำรวจและผลิตและมีการปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม ฝ่ายวิจัยมองว่าการฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซฯ จะเป็นหลักช่วยหนุนผลประกอบการโดยรวม
  • BANPU (ยูโอบี เคย์เฮียน) ราคาหุ้นปรับลดลงเมื่อวานสวนทางราคาถ่านหินที่เริ่มขยับขึ้นมาที่ 52.65 เหรียญ/ตัน จากช่วงต้นปีที่ระดับ 49-50 เหรียญ/ตัน เป็นโอกาสซื้อ ทั้งนี้นอกจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะขาย IPO ปลายปีนี้แล้วยังลงทุนในธุรกิจ shale gas และ solar farm เพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจถ่านหิน
  • SCB (เคจีไอ) เป้า 155 บาท มี Valuation ที่น่าสนใจด้วย PBV 1.4 เท่า และ Dividend yield 4% ต่อปี ขณะที่หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต PBV -2 standard deviation อยู่ที่ 1.3 เท่า ดังนั้นเชื่อว่าราคาหุ้นขณะนี้สะท้อนปัจจัยลบเรื่อง NPL และวัฏจักรดอกเบี้ยต่ำไปพอสมควรแล้ว พร้อมประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 137 บาท (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) และถัดไปที่ 145 บาท แนวรับ 130 บาท (Stop loss 123 บาท)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ