ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,436.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด (+0.87%) มูลค่าการซื้อขาย 53,374.53 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,437.62 จุด และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,426.80 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 672 หลักทรัพย์ ลดลง 446 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 344 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหุ้นในกลุ่มแบงค์ และหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ขณะเดียวกันตลาดยังมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะรอผลการโหวตของประเทศอังกฤษว่า จะออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ ถ้าหากเป็นอย่างนั้น เฟดก็น่าจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
"มีแรงซื้อเข้ามาทุกกลุ่ม โดยน่าจะมีปัจจัยมาจากตลาดต่างประเทศและภูมิภาคที่ปรับตัวดี รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง และน่าจะเป็นครั้งแรก ที่ดัชนีปิดได้สูงสุด ตั้งแต่เดือนต.ค.58 ที่เคยทำไว้ที่ระดับ 1,431 จุด ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี"นายธนเดช กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ที่จะประกาศในคืนนี้ และถ้อยแถลงของประธานเฟดในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายธนเดช คาดว่า ดัชนีฯมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด พร้อมให้แนวต้าน 1,460 จุด แนวรับ 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,368.39 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,224.03 ล้านบาท ปิดที่ 306.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,946.22 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,791.44 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,699.95 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท ลดลง 0.10 บาท