ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,435.65 จุด ลดลง 9.89 จุด (-0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 42,154.51 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,451.08 จุด และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,435.20 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 398 หลักทรัพย์ ลดลง 702 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 340 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีฯไม่ผ่าน 1,450 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ และตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ต่างก็ติดลบกัน เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย
อีกทั้งก่อนหน้านี้ตลาดฯก็ได้รับแรงซื้อเข้ามามากหลังจากที่มีการปรับมุมมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมองกันว่าเฟดคงจะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และตลาดหุ้นไทยก็ได้ตอบรับเหตุการณ์นี้ไป 3 วันที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็ตามวันนี้จะเห็นได้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มแข็งค่า แม้ว่าตลาดยังมองว่าเฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบมิ.ย.-ก.ค.นี้ แต่ในมุมมองของดีบีเอสฯ เห็นว่าภายในปีนี้เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งแน่ และมีโอกาสอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งก็ได้
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะพักฐานได้ในทางเทคนิคหากหลุดแนว 1,430 จุด ซึ่งเป็นแนวรับและแนวฟิวเตอร์ โดยหากหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,410-1,400 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,379.82 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,233.43 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,961.43 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,366.96 ล้านบาท ปิดที่ 386.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,217.87 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 1.00 บาท