ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนพฤษภาคม 2559 พบว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและปิดสูงสุดในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้ที่ 1,424.28 จุด ณ 31 พฤษภาคม 2559 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนถึง 10.6% และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.4%
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/2559 ที่ 3.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% และยังเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์สหรับ/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 7 เดือน รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2559 มีแนวโน้มดีขึ้น และมีหลักทรัพย์ไทยจำนวน 2 หลักทรัพย์ได้เข้าไปอยู่ในการคำนวณดัชนี Global MSCI Index ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิ 4,805 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคมนี้
ด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (Market capitalization) ของ SET และ mai อยู่ที่ 13.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากสิ้นปี 2558 ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET และ mai ในเดือนพฤษภาคม 2559 รวมอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3.0% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วน Forward P/E ของ SET อยู่ที่ 15.31 เท่า และ mai อยู่ที่ 24.74 เท่า โดยอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.34% และ mai อยู่ที่ 1.39% ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559
สำหรับผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 4,805 ล้านบาท ทำให้ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิอยู่ที่ 17,502 ล้านบาท
ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนพฤษภาคม พบว่า ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 208,054 สัญญา โดยตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 7.36% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2558 ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ 50 Baht Gold Futures และ 10 Baht Gold Futures และ Brent Crude oil Futures