(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ตามตลาดตปท.หลังมีข่าวอังกฤษระงับรณรงค์ Brexit ชั่วคราว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 17, 2016 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ในช่วงสั้น เนื่องจากมีรายงานว่าทางอังกฤษได้ออกมาประกาศระงับการรณรงค์ชั่วคราวเกี่ยวกับการหาเสียงลงประชามติเรื่องที่จะออกจากอียูหรือไม่ หลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติสังกัดพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้เสียชีวิตลงจากการถูกยิง ตรงนี้ทำให้ค่าเงินปอนด์ฟื้นขึ้น จากความกังวลเรื่อง Brexit ผ่อนคลายลงไป แต่เชื่อว่าทางอังกฤษคงจะไม่เลื่อนการลงประชามติออกไป โดยยังคงจะลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.นี้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็รีบาวน์ขึ้นกัน หลังจากที่ตลาดสหรัฐฯได้ปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวลงไปมากแล้ว อย่างไรก็ดี แนวโน้มถัดไปของตลาดฯยังคงน่าจะปรับตัวลงต่อ

พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415-1,420 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,733.10 จุด เพิ่มขึ้น 92.93 จุด (+0.53%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,844.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.99 จุด (+0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,077.99 จุด เพิ่มขึ้น 6.49 จุด (+0.31%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 197.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 205.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 44.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 43.48 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 มิ.ย.59) 1,411.19 จุด ลดลง 23.70 จุด (-1.65%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 972.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 มิ.ย.59) ปิดที่ 46.21 ดอลลาร์/
บาร์เรล ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 มิ.ย.59) ที่ 4.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.26/28 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ หลังหมดปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ พร้อมปรับลดคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากค่ากลางการคาดการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ในปี 2560 ลงจาก 1.9% คาดการณ์เมื่อเดือน มี.ค. เป็น 1.6% ปี 2561 จาก 3% เป็น 2.4% แม้จะยังคงคาดการณ์ดอกเบี้ยปีนี้ไว้ที่ 0.9%
  • นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของไทยล่าสุดเดือน เม.ย. 2559 มีจำนวน 6.05 ล้านล้านบาท หรือ 44.09% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 3.69 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปีงบประมาณ 2558 หนี้สาธารณะอยู่ที่ 5.7 ล้านล้านบาท หรือ 43.1% ถือว่าหนี้สาธารณะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก
  • บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ขณะนี้เครดิตบูโรเริ่มจะเห็นการชะลอตัวลงของสินเชื่อใหม่ตั้งแต่ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพเครดิตของลูกค้าที่ลดลง และกระบวนการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นของสถาบันการเงินท่ามกลางความกังวลใจต่อการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)
  • อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 59 สมาคมฯได้ประกาศปรับราคารับซื้อและขายทองคำในประเทศ 5 ครั้ง หรือเพิ่มขึ้น 350 บาทภายในวันเดียว ส่งผลให้ราคารับซื้อทองคำแท่งอยู่ที่บาทละ 21,650 บาท ราคาขายออกบาทละ 21,750 บาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 34 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 56 ที่ราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 21,800 บาท และราคาขายออกที่บาทละ 21,900 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ ราคารับซื้อที่บาทละ 21,254.32 บาท และราคาขายออกที่บาทละ 22,250 บาท เนื่องจากอานิสงส์จากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้กองทุนต่าง ๆ ขายทำกำไรตลาดหุ้นแล้วหันมาลงทุนในสินค้าที่มีความปลอดภัยหรือความเสี่ยงต่ำอย่างทองคำแทน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานข้อมูลการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารทั้งประเทศล่าสุดสิ้นเดือน พ.ค.59 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีปริมาณการใช้เช็คทั้งประเทศของประชาชน และภาคธุรกิจไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยมีจำนวนเช็คที่ใช้ในเดือน พ.ค. ทั้งสิ้น 6.2 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 9.5% คิดเป็นมูลค่าเงินผ่านการใช้เช็คทั้งสิ้น 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GFPT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 13.15 บาท คาดกำไรปี 2016 ที่ 1.3 - 1.4 พันลบ. (+18%YoY) จากการฟื้นตัวของราคาไก่และการส่งออกที่ดีขึ้น รวมถึงได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์(ถั่วเหลืองและข้าวโพด) ที่ปรับตัวลดลง พร้อมคาดกำไรใน 2Q-3Q/16 มีแนวโน้มเติบโตจากเป็นช่วงไฮ-ซีซั่นของการส่งออกและได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง พร้อมเตรียมลงทุนกว่า 1.5 พันล้านบาท ขยายโรงงานของบริษัทร่วม McKey อีกเท่าตัวเป็น 25,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับ order จากญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ใน 4Q17
  • ASN (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.40 บาท การพัฒนา E-Commerce จะเริ่มใช้ได้ตามแผนใน 3Q16 และคาดส่งผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการใน 2H16 ส่วนกำไร 2Q16 จะเริ่มดีขึ้น โดยคาด 7.9 ล้านบาท +20% Q-Q, +80% Y-Y จากการเพิ่มพนักงานขายและการทำ Segmentation ต่อเนื่องซึ่งดีต่อค่านายหน้า แต่ไฮไลท์ของผลประกอบการจะอยู่ใน 2H16 หลังเปิดตัวการขายประกันแบบ On-line ประกอบกับเป็น high season ของธุรกิจขายประกัน โดยยังคงกำไรทั้งปีที่ 55 ล้านบาท +124% Y-Y แม้กำไร 1H16 อาจทำได้เพียง 26% ของทั้งปี
  • FSMART (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 17.70 บาท ได้รับคัดเลือกให้ขายตั๋วเข้าชมบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.ย. 2016 – 5 ก.ย. 2017 คาดว่าในช่วงนี้จะมีการแข่งขัน 5 แมทช์ มีคนดูประมาณ 2.5 แสนคน เราคาดว่าส่วนแบ่งรายได้จะไม่ได้มากอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นโอกาสต่อยอดในการหารายได้จากบริการใหม่ๆในระยะยาว ผ่านตู้บุญเติม
  • NWR (เอเซีย พลัส) "ซื้อ"เป้า 1.45 บาท จุดเริ่มต้นของการ Turnaround ครั้งใหม่ โดยการรับงานใหม่จำนวนมากในปีนี้ เป็นสิ่งยืนยันว่าวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ของอุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังเกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ พร้อมสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในปีนี้ หนุนให้ผลประกอบการพลิกฟื้นจากภาวะขาดทุน กลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง เชื่อราคาหุ้น ควรวิ่งกลับไปที่ Book Value

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ