โบรกฯเล็ง THCOM ต้นทุนสูงขึ้นหลังรัฐฯจะให้ไทยคม 7-8 กลับไปใช้ระบบสัมปทานหรือทำสัญญาใหม่จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 21, 2016 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.ไทยคม (THCOM) ถูกกดดันจากข่าวที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และรัฐบาลจะหารือเพื่อดึงดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับสู่ระบบสัมปทานเพื่อให้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 20.5% เช่นเดิมจนถึงปี 2564 (ระบบใบอนุญาตจ่ายค่าธรรมเนียม 5.25%) หรือทำสัญญาใหม่เพื่อให้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มและให้ภาครัฐใช้บริการฟรี

ในแง่ข้อกฎหมายไม่คิดว่าจะทำได้เนื่องจากใบอนุญาตที่ THCOM ได้รับถูกต้องและมาจากกฎหมายพ.ร.บ.กสทช. เว้นแต่เพียงว่ารัฐบาลจะใช้ ม.44 กรณีเลวร้ายสุดที่ต้องกลับไปจ่ายส่วนแบ่ง 20.5% จะทำให้กำไรสุทธิลดลงราว 8.5% หรือกรณีให้ภาครัฐใช้ดาวเทียมฟรีซึ่งปัจจุบัน TOT ใช้งาน IPSTAR อยู่ จะกระทบกำไรสุทธิราว 20%

จึงแนะนำให้"หลีกเลี่ยง"การลงทุนจากความไม่แน่นอน ด้าน Regulation สูงทำให้ประมาณการกำไรมี Downside จากปัจจุบันที่คาดโตเฉลี่ยเพียง 3% เมื่อเทียบปีต่อปี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ได้ศึกษาผลกระทบต่อประมาณการกำไรเบื้องต้นในปี 2560-61 คาดว่าจะลดลงราว 8.1% ต่อปี และจะกระทบมูลค่าพื้นฐานราว 2 บาท หรือจะเหลือ 30 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า THCOM จะปฏิเสธข้อเสนอของรัฐฯ และมีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในอนาคต เนื่องจากดาวเทียม 2 ดวงดังกล่าวมีการทำสัญญาผูกพันระหว่างภาครัฐฯและเอกชนให้อยู่ภายใต้ระบบใบอนุญาตอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการต่อ

THCOM อาจเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น จากการที่รัฐมีโอกาศผลักดันให้ ดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับมาอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัมปทานเดิม จากปัจจุบันที่ใช้ระบบใบอนุญาต ทั้งนี้ภายใต้ระบบสัมปทาน THCOM มีภาระต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐราว 20.5% ของรายได้ เช่นเดียวกับที่ดาวเทียมดวงอื่น ๆ ที่อยู่ใต้สัมปทานในปัจจุบัน คือ ไทยคม 4,5 และ 6 ขณะที่ต้นทุนใบอนญาตที่ดาวเทียมดวง 7 และ 8 ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน (ดวง 7 ระหว่างปี 255-2575 และ ดวง 8 ระหว่างปี 2559-2575) มีค่าใบอนุญาตเพียง 5.25% ดังนั้นหากเกิดขึ้นจริงจะกระทบต่อประมาณการรายได้ และ กำไร นับจากนี้เป็นต้นไป รวมถึงกระทบต่อมูลค่าหุ้นภายหลังจากการปรับประมาณการลงแล้วดังกล่าวข้างต้นก็ตาม

หลังจากวานนี้นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2559-2560 ของ THCOM ลงเฉลี่ยปีละ 14% สะท้อนการที่ลูกค้ารายหนึ่ง คือ CTH ยกเลิการใช้ดาวเทียมไทยคม 5 และ 6 ทรานสปอนเดอร์ (สร้างรายได้ปีละ 400 ล้านบาท) และ ต้องปรับมูลค่าพื้นฐานลง 22% ทำให้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปีนี้ที่ 32 บาท อย่างไรก็ตามการปรับลดประมาณการกำไรของ THCOM ดังกล่าว จะกระทบต่อ การบันทึกรายได้ของบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ในฐานะที่เป็นบริษัทแม่ และ ถือหุ้น THCOM ราว 41.4% ของทุนเรียกชำระแล้ว กล่าวคือ การปรับลดประมาณ THCOM ลงดังกล่าว จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2559 และ 2560 ลดลงราวปีละ 1% ใกล้เคียงกัน และกระทบมูลค่าหุ้นเพียง 1 บาท เหลือ 74 บาท จึงยังแนะนำซื้อ เพื่อรับเงินปันผล 7.51% ขณะที่ราคาหุ้นยังมี P/E ต่ำเพียง 13.2 เท่า และ มี upside 40%

วานนี้ (20 มิ.ย.) หุ้น THCOM ปิดที่ 23.30 บาท ลดลง 0.20 บาท (-0.85%)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ