ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,455.65 จุด ลดลง 1.07 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 55,253.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,459.21 จุด และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,449.87 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 464 หลักทรัพย์ ลดลง 636 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 402 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และกลุ่มลิสซิ่งที่ปรับตัวลง จากข่าวเรื่องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะปรับปรุงการคิดอัตราอัตราดอกเบี้ยปรับสำหรับสัญญาเช่าซื้อไม่เกิน 15% แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ตลาดฯในภาคบ่ายมีการรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้าง จากแรงซื้อกลับหุ้นที่ปรับตัวลงไปมาก อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ เป็นต้น
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยต่างรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯในคืนนี้ ถ้าตัวเลขออกมาตามที่ตลาดคาดไว้จะเพิ่มขึ้นราว 170,000-180,000 ตำแหน่ง ก็อาจจะทำให้สัปดาห์หน้าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าได้ และเงินสกุลในเอเชียก็จะแข็งค่าขึ้น รวมถึงเงินบาทด้วย ส่งผลให้อาจมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในเอเชียอีก และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯก็มีโอกาสที่จะเลื่อนออกไปอีก ด้านตลาดในยุโรปก็ยังมีปัญหาเรื่องที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ และยังมีปัญหาภาคธนาคารด้วย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,464-1,475 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,466.49 ล้านบาท ปิดที่ 7.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,217.43 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 2,039.23 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,565.75 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,553.79 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง