SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,502.70 จุด ลดลง 7.33 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 57,728.48 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยสัญญาณขายแรงขึ้นเป็นวันแรกหลังตลาดฯวิ่งขึ้นต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ บ่ายนี้ตลาดยุโรปเปิดลบและราคาน้ำมันโลกปรับลง ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อ wait & see การประชุม FED และลุ้นธนาคารกลางญ่ปุ่น (BOJ) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งลงจากแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง ให้แนวรับ 1,490 จุด แนวต้าน 1,520 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,502.70 จุด ลดลง 7.33 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 57,728.48 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับแดนลบในช่วงต้นภาคเช้า จากนั้นลงมาอยู่ในแดนลบ โดยช่วงท้ายตลาดดัชนีอยู่ระดับจุดต่ำสุดของวันที่ 1,502.45 จุด หลังจากขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,517.59 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 430 หลักทรัพย์ ลดลง 806 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 352 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มเห็นสัญญาณขายแรงขึ้นเป็นวันแรกหลังจากปรับตัวขึ้นไปต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรปเปิดทำการวันนี้ปรับตังลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงด้วย จึงมองว่ามีแรงขายเป็นระยะตาม sentiment ต่างประเทศที่เป็นลบ
"หุ้นขึ้นเร็วสะท้อนอะไรหลายอย่าง กลุ่มแบงก์มีแรงขายออกมาแต่ แรงขายออกมาเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติ ยังอยู่ในขาชึ้น ไม่ได้ทำให้เสียทรง แต่จะเห็นเวียนกันเล่น อย่าง AOT , ปูนใหญ่ (SCC) ต่างประเทศเริ่มมีปัญหา ราคาน้ำมันก็กดดัน อยู่ 40 กลาง-ต้น ไม่ไปไหน"นายธนเดช กล่าว
ขณะที่ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางของสหรัฐ (FED) ซึ่งตลาดฯ คาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย และ ลุ้นว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แม้ว่าปัจจัยเหล่านี้สะท้อนในราคาหุ้นอยู่แล้ว แต่อาจมีความกังวลบ้างว่า FED และ BOJ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คาด อย่างไรก็ตาม จากกระแสเงินทุนยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าจะไม่ทำให้ตลาดฯ ปรับตัวลงแรง และคาดว่าตลาดฯ ขณะนี้ยัง wait & see อยู่
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ดัชนีน่าจะแกว่งตัวลงจากแรงขายทำกำไร ซึ่งนักลงทุนอาจเปลี่ยนกลุ่มหันไปเล่นหุ้น laggard แทน โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,490 จุด แนวต้านที่ 1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,131.53 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,977.89 ล้านบาท ปิดที่ 9.10 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,370.49 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,638.62 ล้านบาท ปิดที่ 500.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,580.52 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 0.25 บาท