นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการนำ 11 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทยเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนในสหรัฐฯ “SET US Roadshow: Thailand Conference 2016"ระหว่างวันที่ 18-21 ก.ค.ว่า นักลงทุนต่างชาติยังมั่นใจในตลาดหุ้นไทยว่ามีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน โดยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของไทย
การโรดโชว์ครั้งนนี้ ตลท.ร่วมกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลกับ 52 กองทุนในประเทศสหรัฐฯ โดยให้ข้อมูลกับสถาบันใน นิวยอร์ก ,บอสตัน และซานฟรานซิสโก โดย 11 บจ.ที่ร่วมเดินทางไปประกอบด้วย บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN), บมจ.ช.การช่าง (CK), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP), บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU), บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC), บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE), บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ วันที่ 8 ก.ค. 59 รวม 1.5 ล้านล้านบาท
นางเกศรา กล่าวต่อว่า ผลการโรดโชว์ออกมาดีมาก พบว่ากองทุนยังมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และยังมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย สะท้อนผลการดำเนินงานของบจ. ที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนระยะยาว
ขณะเดียวกัน บจ. ที่ไปร่วมโรดโชว์ครั้งนี้มีทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มโรงแรม โดยบจ. สามารถให้ข้อมูลเรื่องการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ส่วนบริษัทกลุ่มโรงแรม ให้ข้อมูลถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยปรับตัวดีขึ้น ยิ่งสะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยมีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยนักลงทุนที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วมั่นใจที่จะถือหุ้นไทยในระยะยาว จากปีก่อนที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ถือว่าดีที่สุดในอาเซียน รวมถึงบริษัทจดทะเบียนไทยมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องในอัตราที่ดีและสม่ำเสมอ
"จากการไปโรดโชว์สหรัฐฯ เราพบว่ามีกองทุน 52 กองทุน เข้าร่วมงาน และกองทุนยังมีความมั่นใจต่อการลงทุนในประเทศไทย โดยจะเห็นว่ามีบางกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยแล้วก็ไม่ได้มีความกังวล และยังมีแนวโน้มที่จะถือหุ้นต่อไป ส่วนจะเข้าซื้อเพิ่มหรือไม่นั้น อาจจะต้องพิจารณากันต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยกองทุนต่างประเทศต้องใช้เวลาวิเคราะห์ข้อมูล เพราะมีทางเลือกในการลงทุนในหลายประเทศ" นางเกศรา กล่าว
ทั้งนี้ กระแสตอบรับจากสถาบันต่างประเทศดีเยี่ยม โดยแต่ละกองทุนนั้นมีเข้าร่วมมากกว่า 1 คน และเป็นลักษณะการให้ข้อมูลแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการอย่างละเอียด โดยเฉลี่ยแล้ว 1 บจ. จะพบ 8 กองทุนต่อ1วัน
สำหรับประเด็นการเมืองที่ต่างชาติให้ความสนใจขณะนี้ คือ การเลือกตั้ง มากกว่าผลการทำประชามติร่างรับธรรมนูญของไทย ในวันที่ 7 ส.ค.59 ซึ่งต่างชาติก็ไม่ได้ให้น้ำหนักมากนัก เป็นเพียงการติดตามข่าวมากกว่า โดยส่วนใหญ่กองทุนไม่ได้รู้สึกกังวลว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ แต่สิ่งที่ต่างชาติกังวล คือ การเลือกตั้งว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ให้ความชัดเจนแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า