(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway อิงลบ เหตุราคาน้ำมันลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน,รอดูการประชุม FED-BOJ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 26, 2016 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ให้น้ำหนักอิงไปในทางลบ และคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และตลาดฯกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 26-27 ก.ค. และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 29 ก.ค.ด้วย

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็จะไปในทางลบ อันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และจะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มแข็งค่าขึ้น ทำให้เป็นอุปสรรคต่อเงินทุนไหลเข้า อีกทั้งช่วงนี้ Fund Flow อาจชะลอการไหลเข้ามาหลังจากที่เข้ามามากแล้วในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บ้านเราก็คาดว่าจะมีเรื่องการเมืองกดดันมากขึ้น จากกรณีการจะลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,495-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,493.06 จุด ลดลง 77.79 จุด (-0.42%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,097.63 จุด ลดลง 2.53 จุด (-0.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,168.48 จุด ลดลง 6.55 จุด (-0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 84.48 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 102.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 8.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 12.68 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.83 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ค.59) 1,512.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด (+0.23%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,935.00 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ค.59) ปิดที่ 43.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ค.59) ที่ 4.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.05/06 ทิศทางแกว่งกรอบแคบ รอผลประชุม FOMC พรุ่งนี้
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2559 มีจำนวน 5.97 ล้านล้านบาท คิดเป็น 43.35% ของจีดีพี ลดลงสุทธิ 7.22 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 4.41 ล้านล้านบาท ลดลง 5.91 หมื่นล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.02 ล้านล้านบาท ลดลง 9,893.61 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.21 แสนล้านบาท ลดลง 2,788.53 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.19 หมื่นล้านบาท ลดลง 337.22 ล้านบาท
  • โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงผลความคืบหน้าการพิจารณารายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2560 ว่า กมธ.ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณไปแล้วเบื้องต้น 3,359 ล้านบาท
  • 'ตลท.-กรุงไทย-สวทช.' จับมือตั้งกองทุนทรัสต์ 2.3 พันล้านหนุนธุรกิจเอสเอ็มอี หวังดันมูลค่าเพิ่มทาง ศก.
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินแนวโน้มสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ครึ่งหลังปีนี้ โดยคาดว่า ธุรกิจหลักอย่างเช่น เงินให้สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวจากครึ่งแรกของปี โดยเฉพาะสินเชื่อภาคธุรกิจในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาว ที่ได้รับอานิสงส์จากความก้าวหน้าในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะทยอยเข้าสู่ระบบมากขึ้น ขณะที่สินเชื่อรายย่อยน่าจะเติบโตได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะช่วงท้ายปีที่สินเชื่อเช่าซื้อทยอยปรับตัวดีขึ้น หลังผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกทยอยสิ้นสุดลง
  • "เกศรา มัญชุศรี" กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาสที่ 2/2559 ออกมาดี คาดว่ากระแสเงินทุนต่างประเทศจะเข้ามาในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง หลังจากตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศเข้าซื้อหุ้นไทยแล้ว 68,100 ล้านบาท สำหรับพอร์ตเงินลงทุนของ ตลท.ปีนี้คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่คาดว่าผลตอบแทนจะไม่ถึง 10% โดยเงินลงทุนของตลาดฯจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเงินที่ต้องใช้สำหรับการชำระราคาจะลงทุนในตราสารหนี้ และที่เหลือสามารถไปลงทุนในหุ้นและลงทุนอื่น ๆ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KCE (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 97 บาท กำไร Q2 มีแนวโน้มทำ new high ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่มีกำไร 751 ล้านบาท +47% yoy จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 6% จากการขยายกำลังการผลิตทำให้รายได้เติบโต 2% qoq ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นจาก 34%ในไตรมาสแรกเป็น 35% จาก utilization rate ที่เพิ่มขึ้น คาด Q3 มีโอกาสทำnew high ต่อเนื่องจากกำลังผลิตเฟส3 ที่จะเริ่มดำเนินการ และปัจจุบันบริษัทมี exposure กับยุโรปลดลงเยอะจากปีก่อนหน้า และกรณี brexit บริษัทได้ทำ hedging ไว้ อีกทั้งปี60 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโต 14% โดยคาดจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 35%
  • PACE (ยูโอบี เคย์เฮียน) ภาพรวมผลการดำเนินงานคาดว่าจะพลิกจากขาดทุนมาเป็นบวกในช่วง 1-2 ปีนี้ จากการรับรู้รายได้ของโครงการมหาครและมหาสมุทร จึงแนะนำให้"ซื้อสะสม"ในช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว นอกจากนี้ในระยะยาวคาดว่าจะเห็นการขยายตัวในธุรกิจร้านกาแฟ Dean & Deluca มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
  • THANI (ฟินันเซีย ไซรัส)ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น"ซื้อ" จากเดิม"ขาย" พร้อมปรับเป้าขึ้นเป็น 6.20 บาท จากเดิม 4.46 บาท โดยปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 6% เป็น 883 ล้านบาท +18% Y-Y (เดิมคาด +11% Y-Y) เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าปีก่อนเกือบ 3 เท่า เพราะแนวโน้ม 2H59 สดใสกว่าครึ่งปีแรก หุ้นกู้ 3 พันล้านบาทที่จะหมดอายุเดือน ต.ค. จะ re-finance ได้ในอัตราที่ถูกลงประมาณ 2% การตั้งสำรองจะลดลง ความต้องการรถบรรทุกมีมากจนส่งมอบไม่ทัน ราคาหุ้นแม้ปรับขึ้นมาแล้ว ยังมี PE 15.3 เท่าปีนี้และ 14.2 เท่าปีหน้า ต่ำกว่าการเติบโตของกำไรบริษัท และคาด Dividend yield 3-4% ต่อปี
  • GFPT (เคทีบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 13 บาท คาดกำไร 2Q59 สามารถฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นจากฐานกำไรจากบริษัทร่วมที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์ยังเผชิญกับแรงกดดันของการแข่งขันต่อเนื่อง พร้อมมองแนวโน้มกำไร 3Q59 ยังยืนได้อย่างแข็งแกร่ง แต่อาจจะเติบโตเพียงเล็กน้อยจากฐานกำไรที่ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ขณะที่ 4Q59 กำไรอาจจะหดตัวจากฐานที่สูงได้ แต่ได้ปรับประมาณการกำไรในปีนี้ลงจากธุรกิจอาหารสัตว์ที่แย่กว่าที่เคยคาด และแนวโน้มฐานกำไร 2H59 ที่อาจจะไม่ได้ฟื้นตัวโดดเด่น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ