KSAM เปิดขายกองทุน KF-GBRAND 27 ก.ค.-3 ส.ค. เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 26, 2016 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บลจ.เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผล (KF-GBRAND) ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นของสินค้าแบรนด์ดังหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ดี เหมาะสำหรับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์หลักที่พอร์ตการลงทุนคุณภาพสูงควรมี โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 ก.ค.–3 ส.ค.59

จากสภาวะการลงทุนของตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกที่มีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอ จึงเป็นที่มาของกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผล (KF-GBRAND) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund ที่มีประวัติการจัดตั้งมายาวนานกว่า 15 ปี และสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นบวกถึง 14 ปีปฏิทินนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยปีที่ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักติดลบอยู่ในช่วงปี 2008 ที่เกิดวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis) ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปทั่วโลก (ที่มา : Morgan Stanley Investment Management ณ 30 เม.ย. 59)

กองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds–Global Brands Fund มีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนในตลาดรวมกันกว่า 150 ปี บริหารจัดการโดย Morgan Stanley Investment Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 4.05 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมจัดการลงทุนมายาวนานกว่า 40 ปี อีกทั้งเป็นบริษัทในกลุ่มของ MUFG ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลก" (แหล่งข้อมูล:ข้อมูลบริษัทจาก Morgan Stanley Investment Management ณ 31 มี.ค. 59. MUFG เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Morgan Stanley (MS) โดยถือหุ้นในสัดส่วน 22%. Morgan Stanley Investment Management ถือหุ้นโดย MS 100% I ข้อมูลการจัดอันดับโดย S&P Global Market Intelligence , CNBC ณ 25 พ.ค. 59)

กองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูงทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีความทนทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจ มีศักยภาพในการเติบโต มีฐานลูกค้าและแหล่งรายได้กระจายอยู่ทั่วโลกทั้งยุโรป สหรัฐ รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ดีจากการเติบโตของเศรษฐกิจและประชากร จึงช่วยกระจายความเสี่ยงในด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งได้เป็นอย่างดี และเป็นบริษัทที่มีอำนาจในการต่อรองราคา มีคู่แข่งน้อยราย มีความได้เปรียบทางการแข่งขันโดยอาศัยจุดแข็งจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งซึ่งยากที่จะถูกลอกเลียนแบบ และสามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจในระดับสูงอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ กองทุนหลักยังหลีกเลี่ยงการซื้อหลักทรัพย์ในราคาที่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดที่กิจการสร้างได้ โดยพอร์ตการลงทุนมีระดับราคาเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดในปี 2560 ที่ประมาณ 20 เท่า หรืออัตราผลตอบแทนจากกระแสเงินสดที่ 4.9% เทียบกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.8% (ที่มา : Morgan Stanley Investment Management ณ 30 เม.ย. 59)

กลุ่มอุตสาหกรรมที่กองทุนหลักเลือกลงทุน เช่น บริษัทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ภายในบ้านและของใช้ส่วนตัวหลากหลายชนิด โดยผลตอบแทนของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีผลตอบแทนที่โดดเด่นเหนือกว่าตลาดโดยรวมในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา และมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงกว่า MSCI World ในขณะที่ระดับ พี/อี ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหุ้นอันดับต้นๆที่กองทุนหลักเลือกลงทุน อาทิ Microsoft,L’Oreal ,Unilever , Nestle ,Twenty-First Century Fox เป็นต้น"(ที่มา : Morgan Stanley Investment Management ณ 31 มี.ค. 59)

บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KF-GBRAND เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์หลักที่ทุกพอร์ตการลงทุนคุณภาพสูงควรมี เพื่อรับมือกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นในปัจจุบัน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท ทั้งนี้ บริษัทได้จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน KF-GBRAND ในช่วงการเสนอขายครั้งแรกครบทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน KF-GBRAND มูลค่า 100 บาทด้วย

"กองทุน KF-GBRAND ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Funds–Global Brands Fund (Class Z) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6 และการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน"น.ส.ศิริพรกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ