ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,504.81 จุด ลดลง 7.85 จุด (-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 58,693.29 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,515.98 จุด และปรับลงต่ำสุดที่ 1,501.56 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 441 หลักทรัพย์ ลดลง 808 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 319 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นไปมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเปิดเทรดในช่วงบ่ายก็เคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลงค่อนข้างแรง และบ่ายนี้น้ำมันฟิวเจอร์สก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่องอีก ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงไปฉุดดัชนีฯให้ติดลบราว 4 จุด
อย่างไรก็ดี ตลาดฯกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้ว่าจะไม่ให้น้ำหนักมากนัก เพราะต่างรอดูช่วงปลายสัปดาห์นี้การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่นักลงทุนคาดหวังจะมีการอัดฉีดสภาพคล่อง โดย BOJ น่าจะออกนโยบายเพิ่มเติมออกมา
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า จะต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมัน หากยังปรับตัวลงก็จะไปกดดันดัชนีฯได้ พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEM มูลค่าการซื้อขาย 3,644.60 ล้านบาท ปิดที่ 7.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,067.12 ล้านบาท ปิดที่ 329.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,422.97 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,141.62 ล้านบาท ปิดที่ 9.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,709.66 ล้านบาท ปิดที่ 179.50 บาท ลดลง 1.50 บาท