นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นญี่ปุ่นก่อนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 29 ก.ค.โดยอาจพิจารณาเข้าสะสมตลาดหุ้นจีน ซึ่งจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าเอเชียและผลประกอบไตรมาส 2 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาสแรก
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ ยังสามารถถือเพื่อรับกำไรต่อไปได้ (Let profit run) เช่นเดียวกับหุ้นขนาดกลางและเล็กที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดี พร้อมทั้ง ทยอยขายทำกำไรตลาดหุ้นยุโรป และทองคำ
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ KTBST ยังคงแนะนำให้สะสมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานและหุ้นกู้เอกชนไทย
KTBST ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเทคโนโลยีที่ประกาศออกมาดีส่งผลให้ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ ในขณะที่หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสื่อสารปรับตัวลดลง แสดงให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนสหรัฐฯ
ด้านราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากปริมาณน้ำมันสำรองที่ยังปรับตัวสูงขึ้นและจำนวนแท่นขุดเจาะที่ยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงเช่นกันจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อคืนวานนี้ (26.ก.ค.) มีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. ที่สำรวจโดย Markit ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนแต่ดีกว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐเดือน มิ.ย. ปรับตัวดีขึ้นเทียบกับเดือนก่อนและดีกว่าที่คาดการณ์สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ตลาดเริ่มคาดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงปลายปี
ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่น รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่ารัฐบาลยังหวังให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2.0% ไปพร้อมกับนโยบายทางการคลังของรัฐบาลฯ ซึ่งหนังสือพิมพ์รายงานว่ารัฐบาลมีแผนอัดฉีดเงินเพิ่มกว่า 6 ล้านล้านเยน