นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า แนวโน้มการขยายตัวสินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 3/59 คาดว่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 2/59 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3/59 เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มมีความชัดเจน การกระตุ้นการบริโภคในประเทศ การฟื้นตัวขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภท และภาคการท่องเที่ยวที่ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อในไตรมาส 3/59 เริ่มมีความต้องการมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาส 3/59 ให้กับธนาคารด้วย โดยในครึ่งปีแรกของปีนี้สินเชื่อของธนาคารเติบโตแล้วในระดับกว่า 3% และธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 6-7%
ทั้งนี้จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ธนาคารมีแนวโน้มปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวที่ 3% ซึ่งธนาคารขอดูตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคมนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรก่อนปรับประมาณการ GDP เพิ่มขึ้น แต่ธนาคารยังคงคาดการณ์ส่งออกไทยในปีนี้อยู่ที่ติดลบ 2%
ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 3/59 คาดว่าจะมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาส 1/59 และไตรมาส 2/59 ที่ NPL ของธนาคารอยู่ที่ 2.81% และ 2.89% ตามลำดับ แต่ธนาคารจะพยายามควบคุมระดับ NPL ในปีนี้ให้เป็นไปตามที่ธนาคารตั้งเป้าไว้ที่ไม่เกิน 3.5%
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในไทยในช่วงนี้มองว่าเป็นการแข็งค่าที่เกิดจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า แต่มองว่าจะเป็นการแข็งค่าแบบชั่วคราว และค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางที่ผันผวนได้ โดยธนาคารยังประเมินค่าเงินบาทในสิ้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ธนาคารแนะนำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับผู้ส่งออกและเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนให้ทำประกันความเสี่ยงไว้ เพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินในอนาคตที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้