ตลท.เผย บจ.ใน mai กำไร Q2/59 รวม 2,332 ลบ.โต 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 22, 2016 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai จำนวน 123 บริษัท (จาก 128 บริษัท ไม่รวมบริษัทที่ยังไม่ส่งงบการเงินและบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหรือ NC) นำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุด 30 มิ.ย.59 พบว่า บจ.มีกำไรสุทธิจำนวน 88 บริษัท คิดเป็น 72% ของบริษัทที่ส่งงบการเงินทั้งหมด

ทั้งนี้ บจ. mai มียอดขายรวม 33,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ บจ. มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 23.83% เป็น 25.00% ส่วนกำไรสุทธิรวมเติบโตจาก 1,860 ล้านบาท เป็น 2,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.35%

ในไตรมาส 2/59 หลาย บจ.ใน mai สามารถปรับตัวเพื่อรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัว โดยบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิ หากจำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ามี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของทั้งยอดขายและกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มบริการ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มทรัพยากร ตามลำดับ ธุรกิจที่มีการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มพลังงานทดแทนที่เริ่มมีการรับรู้รายได้จากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้จากค่าโฆษณาและรับจัดกิจกกรรมทางการตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการลดค่าใช้จ่ายของลูกค้า

สำหรับ 5 บริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในไตรมาส 2/59 ได้แก่ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) 992 ล้านบาท บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) 161 ล้านบาท บมจ.เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) 149 ล้านบาท บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) 118 ล้านบาท และ บมจ. 2 เอส เมทัล (2S) 104 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนปี 59 บจ.ใน mai มียอดขายรวม 65,276 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 25.05% เป็น 24.57% กำไรสุทธิรวมลดลง 7.09% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ที่กำไรสุทธิรวมของ บจ. mai ลดลง 19.47% ซึ่งในไตรมาสนี้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของหลายๆ บริษัท

ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 128 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ส.ค.59) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 573.27 จุด เพิ่มขึ้น 9.69% จากต้นปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 370,426 ล้านบาท อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ 61.65 เท่า มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,994 ล้านบาทต่อวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ