IRPC คาด EBITDA ปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่ 1.8 หมื่นลบ.แม้ GIM ทรงตัวจากปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 23, 2016 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษ ชัยเรืองยศ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) จะสูงกว่าปีก่อนที่ 1.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่าค่าการการกลั่นรวม (GIM) ในปีนี้จะทรงตัวเท่ากับปีก่อนที่ 13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่มีปัจจัยสนับสนุนมาจากการเริ่มดำเนินการผลิตของโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ที่เป็นการปรับปรุงน้ำมันเตาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงในกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตและรับรู้รายได้ไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการ"เอเวอเรสต์ที่จะเพิ่มอัตรากำไรให้กับบริษัท โดยบริษัทได้เร่งเครื่องให้มีผลออกมาเร็วกว่าเป้าหมายเดิม เพื่อผลักดันให้ EBITDA แตะ 2.9 หมื่นล้านบาทภายในปี 61 จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 63

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะลดลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 13 เหรียญ/บาร์เรล จากครึ่งปีแรกที่ 13.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากไตรมาส 3/59 เป็นช่วงที่ความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาต่ำที่สุดของปีในฤดูฝน ซึ่งปัจจุบันค่าการกลั่นของธุรกิจโรงกลั่นอยู่ที่ 12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

แต่คาดว่าค่าการกลั่นจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4 จากความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะประเทศในยุโรปและประเทศจีน ซึ่งค่าการกลั่นของธุรกิจโรงกลั่นในไตรมาส 4/59 น่าจะอยู่ที่ 14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้ บริษัทมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาน้ำมันยังเป็นระดับที่ต่ำ และปริมาณน้ำมันในตลาดโลกยังมีปริมาณมากกว่าความต้องการใช้เล็กน้อย

ด้านธุรกิจปิโตรเคมีในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเป็นช่วงที่กลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากดีมากในช่วงครึ่งปีแรก เพราะว่าแนวโน้มราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีกำไรและขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (Stock Gain & Loss) เพราะต้นทุนราคาน้ำมันของบริษัทอยู่ที่ 43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ขณะที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะมีมากที่สุดในไตรมาส 3/59 และอาจจะเห็นการลดไปบ้างในไตรมาส 4/59 เนื่องจากไตรมาส 3/59 เป็นช่วงที่ผู้ผลิตสินค้าต่างๆต้องมีการเริ่มผลิตสินค้าออกมาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงเทศกาลปลายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ