บล.โกลเบล็ก ให้กรอบดัชนี SET 1,520-1,550 จุด จับตาเฟดแถลงทิศทางดบ.,ราคาน้ำมัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 24, 2016 10:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นใกล้ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์การประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมันในและนอกโอเปกในเดือนก.ย. อาจปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง ประกอบกับ การที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) 7.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงการที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะใช้จ่ายงบประมาณ 4.52 ล้านล้านเยน (4.5 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นพ้นจากภาวะเงินฝืด

สำหรับปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์มีแนวโน้มลดเป้าส่งออกปีนี้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทที่ผันผวน ทั้งนี้การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกหดตัว 1.6% และการที่อังกฤษเตรียมใช้มาตรการ 50 เพื่อเริ่มการเจรจาถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2560

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาปัจจัยที่มีผลการลงทุน เช่น วันที่ 25 ส.ค.จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดชายแดนภาคใต้ 36 เมกะวัตต์ และในวันที่ 26 ส.ค. การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด อาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และวันที่ 29 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งเป้าไปที่คำแถลงของเฟด ในการประชุมประจำปีวันที่ 26 ส.ค. เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอการเข้าซื้อ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนหลังจากประกาศงบการเงินในไตรมาส 2/59 ไปแล้ว

ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,520 - 1,550 จุด โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มพลังงาน โดยในวันที่ 25 ส.ค. จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 เมกะวัตต์ ได้แก่ TPCH, FPI และ ECF รวมถึงหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เดินหน้าโครงการรถเมล์ไฟฟ้าล็อตแรก ต.ค.59 ตามโรดแมพของนายกรัฐมนตรี เต็มระบบ 200 คัน งบประมาณ 3 พันล้านบาท ได้แก่ LOXLEY และกลุ่มปันผลครึ่งปีโดดเด่น ได้แก่ INTUCH, ADVANC, TCAP และ KKP

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนก่อนปรับลงจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้านี้ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายออกมาให้ความเห็นสอดคล้องกันว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกระบุว่าเมื่อพิจารณาในแง่ของเศรษฐกิจแล้วในเดือนก.ย.ดูมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ขณะที่ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาเผยเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้

ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสและธนาคารบาร์เคลย์สมีความเห็นเห็นสอดคล้องกันว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่แจ็คสันโฮลในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค. นี้ พร้อมกับแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ

ดังนั้นประเมินแนวโน้มราคาทองคำปรับลงมาต่ำกว่าแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน ด้วยแนวเรียงตัวแท่งเทียนสัญญาณลบ รวมถึงค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับลง ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับลงต่อในแนวลงรูปแบบ Bearish Flag โดยมีแนวรับ 1,310 – 1,305 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,360-1,365 เหรียญต่อทรอยออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ