PYLON คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน แม้รายได้หดตัวเหตุงานภาครัฐออกมาช้า,Backlog ทยอยรับรู้ฯถึงกลางปี 60

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 24, 2016 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน (PYLON) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าระดับ 201.91 ล้านบาทในปีก่อน แม้คาดว่ารายได้จะลดลงจากระดับ 1.2 พันล้านบาทในปีก่อนก็ตาม เนื่องจากบริษัทเน้นรับงานที่ให้มาร์จิ้นสูง และเป็นงานที่มีสัญญาต่อเนื่อง ทำให้ใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตเกือบเต็ม 100% แล้ว และตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 16% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20%

ขณะที่รายได้ในปีนี้คาดว่าจะลดลงจากปีก่อน เป็นผลจากงานโครงการของภาครัฐที่ออกมาล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ปริมาณงานโครงการต่าง ๆ มีน้อย และมีผลไปถึงงานโครงการของภาคเอกชนที่ชะลอตัวตามไปด้วย แต่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มเห็นความชัดเจนของโครงการภาครัฐออกมาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งทำให้งานโครงการต่าง ๆ เริ่มกลับมา ซึ่งบริษัทได้งานภาครัฐที่เกี่ยวกับฐานรากมาแล้ว 2 โครงการ คือ งานฐานรากโครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปเมื่อไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมา และงานฐานรากโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในเดือนต.ค.นี้

"งานโครงการภาครัฐที่ออกมามากขึ้นจะช่วยให้การลงทุนภาคเอกชนกลับมาเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ที่จะมีการเปิดประมูลในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีผลต่อการสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการลงทุนตามมากขึ้น โดยบริษัทประเมินว่าแนวโน้มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกจากงานภาครัฐและงานภาคเอกชนที่จะมีเพิ่มมากขึ้น"นายชเนศวร์ กล่าว

นายชเนศวร์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 700 ล้านบาท ฟื้นตัวขึ้นราว 30% จากช่วงเดือนพ.ค. เนื่องจากมีการขับเคลื่อนของงานภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนหลัก ที่มีปริมาณงานเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่มากขึ้น และจะฟื้นตัวอย่างเด่นชัดในปี 60 โดย Backlog ที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้ในช่วงต้นปี-กลางปี 60 ซึ่งเป็น Backlog ที่มาจากงานขนาดใหญ่ ได้แก่ งานฐานรากสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่จะเริ่มในเดือนต.ค. และมีกำหนดส่งมอบงานในช่วงกลางปีหน้า และงานฐานรากโครงการของโกลเด้นแลนด์ที่สามย่าน ที่มีกำหนดส่งมอบงานในต้นปี 60

ส่วนงบลงทุนปีนี้จะอยู่ที่ 250 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องจักรไว้ขยายงาน ซึ่งปัจจุบันใช้ไปแล้ว 100 ล้านบาท และคาดว่าช่วงที่เหลือจะใช้งบลงทุนไม่หมดเนื่องจากบริษัทจะลงทุนก็ต่อเมื่อรับงานเท่านั้น

นอกจากนี้บริษัทมีแผนการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (โรดโชว์) ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายปีนี้ และสิ้นเดือนส.ค.ที่งานไทยแลนด์โฟกัส ซึ่งนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจถึงผลการดำเนินงานของบริษัท แต่สิ่งที่สำคัญที่นักลงทุนต่างชาติยังไม่มั่นใจ คือ ความต่อเนื่องของนโยบายการลงทุนของภาครัฐ โดยการลงทุนภาครัฐถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เกิดการลงทุนตามของภาคเอกชน หลังจากครึ่งปีแรกการลงทุนของเอกชนชะลอตัวลงไปมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ