(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย จับตาสัญญาณคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 26, 2016 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจากตลาดฯกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยจะต้องรอดูสัญญาณจากประธานเฟดในคืนวันนี้ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ๊คสัน โฮล ซึ่งขณะนี้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอิง Fed Fund Future ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 4% แล้ว ซึ่งโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ได้เพิ่มขึ้นเป็น 57% จากเดิม 53%

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,538-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ส.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,448.41 จุด ลดลง 33.07 จุด (-0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,212.20 จุด ลดลง 5.49 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,172.47 จุด ลดลง 2.97 จุด (-0.14%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 70.40 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 12.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.89 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.59) 1,544.10 จุด ลดลง 3.45 จุด (-0.22%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,023.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ส.ค.59) ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.59) ที่ 4.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.53/55 คาดวันนี้มีโอกาสหลุด 34.50 รอดูท่าทีเฟดคืนนี้
  • นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ให้นโยบายคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดแผนพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินว่างกลางกรุงเทพมหานคร บริเวณบางซื่อ, กม.11, สถานีแม่น้ำ, มักกะสัน และ พื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพพอที่จะนำที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สร้างรายได้ให้แก่ รฟท.
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.58-ก.ค.59) รัฐบาลมีรายได้ส่งคลัง 1.96 ล้านล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 2.43 ล้านล้านบาท และกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 3.86 แสนล้านบาท จากเป้า 3.9 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.59 อยู่ที่ 2.47 แสนล้านบาท
  • ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เผยความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของ 7 รัฐวิสาหกิจ ว่า ยังห่วงการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ ที่ขณะนี้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีเอฟ) พุ่งกว่า 50% ของสินเชื่อรวม ทำให้ต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
  • 'สมคิด' สั่ง ทอท.ยกระดับทุกสนามบินหลังลงนามก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ทอท.ปิดทางแอร์เอเชียร่วมทุนดอนเมือง ยันลงทุนเองทั้งหมดตามแผนเดิม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCN (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 9.9 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 71 ล้านบาทเติบโต 70%YoY แต่ลดลง 13%QoQ โดยตั้งเป้าขยายปั๊ม NGV เพิ่มอีก 5 สาขาและเพิ่มยอดขาย ICNG อีกเท่าตัวในปลายปีนี้ พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 59 และ 60 เพิ่มขึ้น 5% และ 4% ตามลำดับ
  • THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผ่านช่วงต่ำสุดช่วง low season ไปแล้ว หลังจากนี้คาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง Q1/60 จากช่วง high season นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำประกันราคาน้ำมันสูงถึง 80-90 เหรียญ/บาร์เรล
  • TMT (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 14.7 บาท ปรับประมาณการกำไรและปันผลขึ้น คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น เดิม 1.0 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 12.6% และแนวโน้มราคาเหล็กเริ่มฟื้นตัวและผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดฟื้นต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมคาดพักฐานเสร็จ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 13.6 บาท และ 14 บาท ตามลำดับ แนวรับ 12.6 บาท
  • UNIQ (ไอร่า) เป้า 24.40 บาท คาดจะยังรักษาความสามารถทำกำไรที่ดีเช่นกัน คาด Gross Profit Margin เฉลี่ย 18.50 – 19.00% คาดช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายขายและบริหาร และดอกเบี้ยจ่าย ประมาณ 732 ล้านบาท และ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และ 6% จากปี 58 ทำให้คาดกำไรสุทธิ จำนวน 1,053 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 58 หรือคิดเป็น 0.97 บาท/หุ้น และคาดเงินปันผลภายใต้ Payout Ratio ประมาณ 40% หรือ 0.39 บาท/หุ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ