TTCL คาดปีนี้อัตรากำไรสุทธิพุ่งเล็งประมูลงานอีกกว่า 1.17 แสนลบ.,เจรจาซื้อโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่ม 30MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 9, 2016 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ ผู้บริหารสายงานบริหารการเงิน บมจ.ทีทีซี แอล (TTCL) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตรากำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากปีก่อนที่ 1.92% โดยครึ่งปีแรกปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 2.11% แล้ว เป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในเมียนมา กำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์สามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในปีนี้ได้อีกครั้งหลังจากมีการปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่มีการชำรุดในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานโครงการรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ประเภทธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) และอื่นๆ มูลค่ารวม 1.17 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงาน 1 ใน 3 ของมูลค่างานที่เข้าประมูล โดยในปีนี้จะมีการประกาศผลการประมูลงานมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนเป็นงานในประเทศ 45% และอีก 55% เป็นงานในต่างประเทศ

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ทั้งหมด 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังในสัดส่วน 45% ของมูลค่างานทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯ ในปีถัดไป ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 1.08 หมื่นล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าการนำบริษัทย่อย คือ Toyo Thai Power Holdings Pte. Ltd. (TTPHD) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คาดว่าขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และเข้าทำการซื้อขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 60 เพื่อระดมเงินทุนมาใช้ขยายธุรกิจพลังงานในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีดีลซื้อโซลาฟาร์มในญี่ปุ่นเพิ่มอีก 30 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 25 เมกะวัตต์ โดยจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนราว 50% ซึ่งได้เจรจากับพันธมิตร 2 ราย ที่มีความเป็นไปได้สูงในการลงทุนโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปีนี้

บริษัทยังได้มีความชัดเจนในเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นโครงการพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินในเมียนมา ขนาด 1,280 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะให้รัฐบาลเมียนมาเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 5% และที่เหลือเป็นบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกทั้งยังเหลือขั้นตอนของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่รอความชัดเจน โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

ด้านการเตรียมความพร้อมของแหล่งเงินทุนทางอื่น นอกเหนือจากเงินที่ได้จากการขาย IPO ของบริษัทย่อยในตลาดหุ้นสิงคโปร์ บริษัทได้ขอวงเงินออกหุ้นกู้มูลค่า 2 พันล้านบาท จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อรองรับโอกาสในการใช้ลงทุนโครงการพลังงานที่จะเกิดขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ