ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,446.84 จุด เพิ่มขึ้น 34.99 จุด (+2.48%) มูลค่าการซื้อขาย 58,278.28 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,450.43 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,429.62 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,057 หลักทรัพย์ ลดลง 314 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 169 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวน์ตามตลาดต่างประเทศหลังคลายกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปบ้าง แต่ช่วงบ่ายตลาดต่างประเทศกลับปรับตัวลงไปอยู่ในแดนลบทั้งตลาดภูมิภาค ตลาดหุ้นฮ่องกง รวมถึงดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ส่วนตลาดยุโรปบ่ายนี้ก็บวกเล็กน้อย อาจเป็นผลจากการรอความชัดเจนผลประชุมเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย.อีกที
ส่วนตลาดบ้านเรายังต้องติดตามดัชนีฯในวันพรุ่งนี้ด้วยว่าหากสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,440 จุดได้ตลอดทั้งวันก็อาจมีแรงซื้อกลับตามมาอีก และดัชนีฯก็จะมีลุ้นขึ้นไปแถว 1,455 จุดได้ แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือได้ในทางเทคนิคก็ยังเป็นแค่การรีบาวด์
ทั้งนี้ ตลาดฯปรับตัวขึ้นมาได้แต่วอลุ่มยังไม่มาก ดังนั้นจึงแนะนำช่วงสั้นให้ take profit ไปก่อน และเชื่อว่ามีนักลงทุนบางส่วนได้ขายล็อคกำไรไปบ้างแล้ว
"ตลาดบ้านเราปรับตัวลงมาเยอะ เรียกได้ว่าลงลึก จนเข้าเขต Oversold ดังนั้นแม้บ่ายนี้ตลาดภูมิภาคจะติดลบกัน แต่ตลาดบ้านเราก็บวกได้ดีกว่า เพราะเราลงลึก แต่จะรีบาวด์ได้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ขึ้นกับข่าวเฟดด้วย"นายธีรวุฒิ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสถูก take profit หลังจากรีบาวด์ด้วยวอลุ่มเทรดที่ไม่สูงนัก พร้อมให้แนวรับ 1,430-1,415 จุด ส่วนแนวต้าน 1,455 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,550.45 ล้านบาท ปิดที่ 323.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,720.63 ล้านบาท ปิดที่ 526.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,694.08 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,251.39 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,076.49 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท