โบรกฯแนะ"ซื้อ" BEM คาดผู้โดยสารรถไฟฟ้าพุ่งหลังเชื่อมต่อสถานีเตาปูน-บางซื่อเสร็จ,หวังได้สิทธิเดินรถสีน้ำเงินทั้งสาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 20, 2016 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ เชียร์ซื้อหุ้นบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เหตุรับปัจจัยบวกการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว อีกทั้งการจะเปิดให้บริการส่วนเชื่อมสถานีเตาปูน-บางซื่อในไตรมาส 1/60 จะหนุนให้จำนวนผู้โดยสารในปี 60-61 เพิ่มขึ้นราว 30% จากปีนี้ พร้อมรับแรงหนุนจากการเปิดให้บริการทางด่วนศรีรัชสายใหม่ วงแหวนรอบนอก และมีโอกาสที่จะได้รับสิทธิการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้จากการบริหารเดินรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในระยะยาวด้วย

ส่วนการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงทั้งเส้นทางเหลือ 29 บาท จาก 42 บาท/เที่ยว ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา จนกว่าจะเปิดให้บริการส่วนเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนและบางซื่อนั้น เชื่อว่าจะช่วยให้จำนวนผู้โดยสารสายสีม่วงเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยแค่ประมาณ 20,000 คน/วัน แม้จะยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 120,000 คน/วันอย่างมาก แต่ BEM ก็น่าจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากการดำเนินการสายสีม่วงเป็นระบบ "PPP Gross Cost" ซึ่ง BEM จะได้รับค่าจ้างดำเนินงานและบำรุงรักษาปีละ 1.8 พันล้านบาท

ราคาหุ้น BEM ปิดตลาดอยู่ที่ 7.30 บาท ลดลง 0.20 บาท (-2.67%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 1.27%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ฟินันเซีย ไซรัส                ซื้อ                          12.00
          กรุงศรี                      ซื้อ                           9.00
          เอเชีย เวลท์                 ซื้อ                          10.10
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ             ซื้อ                           8.10
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ             ซื้อ                           8.20
          บัวหลวง                     ซื้อ                           7.60
          ทิสโก้                       ซื้อ                           8.60
          นางสาวจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้น BEM มีปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารสายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว และได้มีการเร่งรัดเพื่อที่จะก่อสร้างสถานีเตาปูน-บางซื่อ เพื่อให้เชื่อมต่อระหว่างสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงอีกด้วย
          นอกจากนี้ BEM ยังมีแนวโน้มค่อนข้างมากที่จะได้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญ จากที่ประสบความสำเร็จของการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัท นอกเหนือจากปัจจัยหนุนจากการที่ภาครัฐจะเริ่มประมูลโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ อีกเพิ่มเติมซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นได้ในช่วงปลายปีนี้
          "หุ้นตัวนี้เราให้ราคาเป้าหมายที่สูงกว่านักวิเคราะห์ที่อื่นๆ เนื่องจากเรามองว่าคงจะได้รับการบริหารสายสีน้ำเงินทั้งหมด จะมีส่วนที่ช่วยหนุนให้ผลประกอบการในอนาคตเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันราคาก็ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเยอะตามภาวะตลาดฯ แต่ระยะยาวเรายังคงมองว่าเหมาะสมในการซื้อเพื่อลงทุน"นางสาวจิตรา กล่าว
          ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุมัติให้มีการลดค่า โดยสารสำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงทั้งเส้นลงเหลือ 29 บาท จาก 42 บาท/เที่ยว มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย.59 จนกว่าจะเปิดให้บริการส่วนเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนและบางซื่อได้ภายในไตรมาส 1/60 นั้น จะช่วยให้จำนวนผู้โดยสารสายสีม่วงเพิ่มขึ้น จากเฉลี่ยแค่ประมาณ 20,000 คน/วัน แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าเดิมที่ 120,000 คน/วันอย่างมาก
          อย่างไรก็ตาม BEM จะไม่ถูกกระทบโดยตรงเนื่องจากการดำเนินการสายสีม่วงเป็นระบบ "PPP Gross Cost" ซึ่ง BEM จะได้รับค่าจ้างดำเนินงานและบำรุงรักษาปีละ 1.8 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามการที่ยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ปรับลดสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารสายสีน้ำเงินในปี 59 ลง 7% เหลือ 279,000 คน/วัน จากจำนวนผู้โดยสารที่ต่อมาจากสายสีม่วงต่ำกว่าคาด แต่ยังคงประมาณการผู้โดยสารปี 60-61 เอาไว้ที่ 362,000 คน/วัน เพิ่มขึ้นราว 30% จากปีนี้ เพราะเชื่อว่าการเปิดส่วนเชื่อมสถานีเตาปูน-บางซื่อในไตรมาส 1/60 จะหนุนให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
          สำหรับในปี 60 นับว่าเป็นปีทองของ BEM โดยคาดว่ากำไรจะโตถึง 54% จากปีนี้ ส่วนหนึ่งจะมาจากการที่บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลงได้ถึง 250 ล้านบาทจากการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่การเปิดให้บริการทาวด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกก็จะช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 1 พันล้านบาทในปี 60 จากจำนวนรถที่ใช้ทางด่วนเส้นนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าช่วงสถานีเตาปูน-บางซื่อก็จะช่วยหนุนให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 คน/วัน ในปี 60 และทำให้จำนวนผู้โดยสารสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น 60,000 คน/วัน ซึ่งจะทำให้กำไรปี 60 เพิ่มขึ้นประมาณ 500 ล้านบาท
          นอกจากนี้ในอนาคต BEM ยังมีปัจจัยบวกจากการที่รฟม. และ BEM จะเริ่มการเจรจาสัมปทานสายสีน้ำเงินและน้ำเงินต่อขยายในเดือนก.ย. และน่าจะเจรจาจบได้ภายใน 105 วัน นอกจากนี้ BEM ก็ยังมุ่งเป้าไปที่สัญญาการดำเนินโครงการสายสีชมพูและเหลืองในไตรมาส 4/59 โดยคาดว่ารฟม.จะประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลได้ในไตรมาส 1/60 นอกจากนี้ BEM ก็ยังเป็นตัวเต็งสำหรับโครงการสายสีส้มซึ่งจะเปิดประมูลในปี 60 อีกด้วยจากการที่บริษัทมีความได้เปรียบทางด้านต้นทุนเหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งนับว่ายังมี upside อีกมาก
          ขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ"หุ้น BEM จากเดิม "ถือ" ด้วยราคาพื้นฐาน 8.20 บาท  หลังจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยจุดเด่นของ BEM คือ อัตราการเติบโตของกำไรที่ก้าวกระโดด คือ ปีนี้และปีหน้าในอัตรา 62% และ 40% ตามลำดับ เนื่องจากได้รับแรงผลักดันมาจากผลพวงจากการเริ่มให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และการเปิดให้บริการทางด่วนศรีรัชสายใหม่ วงแหวนรอบนอก และในระยะยาวก็จะมีรายได้จากการบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนขยายที่คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 63
          อนึ่ง รฟม.จะเริ่มเจรจากับ BEM ภายในเดือนก.ย.นี้เพื่อให้รับสัมปทานงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย กับสายสีน้ำเงินเดิมที่ BEM เดินรถไฟฟ้าอยู่ เพื่อให้การเดินรถต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ว่าจ้าง BEM ด้วยวิธีพิเศษ โดยทำสัญญาชั่วคราวในการจ้างเดินรถและติดตั้งระบบรวมทั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สถานี ระหว่างสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ ระหว่างที่การเจรจาสัญญาเดินรถส่วนต่อขยายยังไม่ได้ข้อสรุป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ