นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า โดยรับอานิสงส์จากผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวานนี้มากกว่า ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการเพิ่มวงเงินในการทำ QE แต่ก็เป็นการให้สัญญาณว่า ได้มีการเปลี่ยนวิธีการ ซึ่งตรงนี้จะทำให้กำไรของบริษัทในญี่ปุ่นไม่แย่ลง
นอกจากนี้ ยังตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เมื่อคืนที่ผ่านมาด้วย ที่ผลออกมายังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ดังนั้นตลาดจึงน่าจะดีในช่วงสั้น แต่ต่อไปอาจจะเจอ Sell on fact ได้ เพราะยังมีการประชุมเฟดในธ.ค.ด้วย
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกในสัปดาห์หน้านี้ด้วย เพราะจะมีผลต่อทิศทางราคาน้ำมัน พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,477 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500-1,505 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,293.70 จุด พุ่งขึ้น 163.74 จุด (+0.90%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,295.18 จุด เพิ่มขึ้น 53.83 จุด (+1.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.36 จุด (+1.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 250.28 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 36.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.50 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.ย.59) 1,487.17 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด (+0.91%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 367.58 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ก.ย.59) ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.ย.59) ที่ 7.10 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.64/66 แข็งค่าจากวานนี้ ขานรับ FED คงดอกเบี้ยตามตลาดคาด
- รมว.คลัง เผยล่าสุดได้หารือกับผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งทางไอเอ็มเอฟบอกว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐของไทยดี ถือว่ามีความมั่นคงที่สุดในโลกสำหรับประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ โดยที่ผ่านมาประเทศตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกทำให้มีเงินทุนไหลออก แต่ประเทศไทยมีเงินทุนไหลเข้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนโลก
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย ประจำเดือน ส.ค. 2559 ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. พบว่า อยู่ที่ระดับ 83.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 84.7 ในเดือน ก.ค.และปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยปัจจัยลบเกิดจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัญหาการเตรียมปรับค่าจ้างแรงงาน และผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากการที่จีนออกมาตรการให้สินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยต้องดำเนินการพ่นสารเคมีกำจัดยุงในตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
- รมว.คลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในภาคการเกษตร หลังพบเศรษฐกิจมีสัญญาณอ่อนตัว มั่นใจจีดีพีไตรมาส 3 โตกว่า 3.5% เผย IMF พอใจเศรษฐกิจไทย ชี้มั่นคงที่สุดของตลาดเกิดใหม่
- "ชาติชาย ทิพย์สุนาวี" ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 14 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตันว่า ในการหารือครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งที่ประชุมจะได้ข้อสรุปวงเงินการดำเนินโครงการ รายละเอียดวัสดุก่อสร้างทั้งหมด โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเป็นผู้สรุปข้อมูล พร้อมจัดส่งให้กระทรวงคมนาคมในสัปดาห์หน้า และกระทรวงจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการ และวงเงินการดำเนินงานภายในเดือนตุลาคมนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPF (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผลประกอบการจะสูงที่สุดในช่วง 3Q59 เนื่องจาก 1) ราคาไก่ที่อยู่ในระดับสูงจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากการนำเข้าไก่จากญี่ปุ่น และผลกระทบของการห้ามนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์จากสหรัฐตั้งแต่ต้นปี 2558 จากโรคระบาดไข้หวัดนก 2) ธุรกิจกุ้งที่เริ่มฟื้นตัว และ 3) ราคาอาหารสัตว์ที่คงที่
- BCH (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไร 3Q59 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากช่วง high season และการรับรู้รายได้ประกันสังคมที่เลื่อนมาจากช่วง 2Q59 ทั้งนี้เราคาดกำไรปี 59 นี้ จะเติบโตก้าวกระโดดจาก การถึงจุดคุ้มทุนของ รพ. WMC การเติบโตของ รพ.ในเครือทั้งจำนวนผู้ป่วยนอกและใน การขึ้นค่ารักษาพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น
- KBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 232 บาท สินเชื่อเดือน ส.ค. +0.13% M-M (+2.02% YTD) เป็นอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียง BBL, SCB ที่ประกาศก่อนหน้านี้ ส่วนเงินฝากเพิ่มแรง +2.1% M-M น่าจะเป็นการตุนสภาพคล่องสำหรับการปล่อยสินเชื่อใน 4Q16 สำหรับกำไรใน 3Q16 เบื้องต้นเราคาดว่าจะออกมาดี +11% Q-Q, +7% Y-Y จากการตั้งสำรองฯที่ลดลง ส่วนกำไรทั้งปี คาด -2% และปีหน้า +12.8%
- PLANB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 7 บาท Valuations เริ่มน่าสนใจ โดย 2017Forward PE ปรับลงจากจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือนที่ 43 เท่าเหลือ 36 เท่า แม้กำไร 1H16 -7.7% Y-Y ตามภาวะเศรษฐกิจ แต่แนวโน้มจะดีขึ้นตั้งแต่ 2H16 เป็นต้นไปจาก (1) ส่วนแบ่งรายได้ของ Hello เพิ่มขึ้น (2) การเริ่มดำเนินงานสื่อดิจิตอลใน BIGC ตั้งแต่ปลาย 2Q16 (3) ได้ส่วนแบ่งรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลและบริษัทพรีเมียร์ลีก และ (4) มีพอร์ตของสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดกลาง ส.ค. ที่ผ่านมา PLANB ซื้อหุ้น 50% ใน Bright Sky Media ทำให้ PLANB มีพื้นที่เช่าเพื่อติดป้ายโฆษณาในสนามบินอีก 22 แห่งทั่วประเทศ โดยยังคาดกำไรปีนี้ +0.8% และปีหน้า +34.5%
- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 16.8 บาท คาดปี 2016 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากการโรงไฟฟ้า BLCP และหงสาจะทำการผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย พร้อมปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย) นอกจากนี้เตรียมนำ BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.ในช่วง Q4/59 ซึ่งจะช่วยชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี ส่วนราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 72.6 US/Tons