(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวเล็งแรงหนุนสถาบันในประเทศซื้อ-เก็งงบฯ Q3/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 18, 2016 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย แต่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันได้ถอยลงมาต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญฯ/บาร์เรล

แต่ตลาดบ้านเราอยู่ในแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น เพียงแต่รอปัจจัยผลักดันใหม่เข้ามา ซึ่งก็มองที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาส 3/59 ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ และการประชุม ECB คืนวันพุธนี้ รู้ผลเช้าวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังน่าจะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อคืนของนักลงทุนสถาบันในประเทศช่วยผลักดันตลาดฟื้นตัว และยังมีการเก็งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/59 ที่คาดว่าจะออกมาดีด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,465-1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490-1,500 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,086.40 จุด ลดลง 51.98 จุด (-0.29%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,199.82 จุด ลดลง 14.34 จุด (-0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,126.50 จุด ลดลง 6.48 จุด (-0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.73 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 14.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 92.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 1.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.20 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 37.81 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ต.ค.59) 1,477.34 จุด ลดลง 0.27 จุด (-0.02%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,577.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ต.ค.59) ปิดที่ 49.94 ดอลลาร์/บาร์เรล .ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ต.ค.59) ที่ 5.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • ค่าเงินบาทเปิด 35.18/20 แนวโน้มแข็งค่าในกรอบ 35.10-35.20
  • ธปท.เผยธุรกรรมโอนเงินมูลค่าสูงผ่านระบบบาทเนต 3.53 แสนรายการ มูลค่าเกือบ 80 ล้านล้านบาท พบปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล และธุรกรรมการจ่ายคืนเงินต้นดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลโต 24.9% 48.4% และ 644.9%
  • นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายในวาระที่ 2 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการยังกังวลสาระสำคัญของร่างกฎหมายอยู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องที่ผู้ประกอบการต้องยื่นโครงสร้างราคาขายปลีกให้อธิบดีกรมสรรพสามิตตรวจสอบ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ถือเป็นความลับทางการค้าของผู้ประกอบการ
  • คลังห่วงเศรษฐกิจส่งท้ายปีชอร์ต ถกหามาตรการเสริมพร้อมดึงมาใช้ รับตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ทุกวัน ดันการลงทุนเดินหน้าต่อ ดูแลกลุ่มบันเทิง นักดนตรี-นักเต้นเป็นพิเศษอาจได้รับผลกระทบระยะสั้นช่วง 1 เดือนนี้
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมออกมาตรการดูแลกลุ่มธุรกิจภาคบริการ เช่น โรงแรม ศูนย์การแสดงสินค้าและธุรกิจ อื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงนี้ แต่ต้องไม่สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้บ้าง ส่วนการเร่งลงทุนภาคเอกชนเพื่อให้ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่านั้นยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยเตรียมเดินสายชี้แจงผู้ประกอบการกระตุ้นเอกชนหันมาสนใจและลงทุนมากขึ้น ส่วนตลาดเงินและตลาดทุนของไทย ยังอยู่ในภาวะปกติ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SELIC (บมจ.ซีลิค คอร์พ) เทรดวันนี้วันแรก บนกระดานตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้านบล.แอพเพิล เวลธ์ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2560 โดยใช้วิธี P/E Ratio เท่ากับ 3.44 บาท โดยราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.90 บาท/หุ้น พร้อมคาดกำไรโตเฉลี่ย 20.5% ใน 3 ปี ระดมทุนขยายวิจัยและปรับปรุงระบบผลิต

บมจ.ซีลิค คอร์พ เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย รวมทั้งวิจัยและพัฒนากาวอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศกว่า 27 ประเทศทั่วโลก

  • IVL (ยูโอบี เคย์เฮียน) ยังคงชอบ IVL จากแนวโน้มกำไรที่คาดว่าจะแข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง รวมทั้งยอดขายและกำไรกว่า 80% มาจากธุรกิจอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งจะไม่ได้รับผลลบจากปัจจัยในประเทศมาก
  • IRPC (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 6 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 1-2 ปีข้างหน้า แม้คาดกำไร Q3/59 อ่อนตัวตามค่าการกลั่น และการตัดค่าเสื่อมหน่วยผลิตใหม่ แต่แนวโน้ม Q4/59 ฟื้นตัว หนุนภาพรวมกำไรทั้งปียังขยายตัวต่อเนื่อง และปี 2560 รับรู้ผลบวกจากโครงการ UHV / Everest แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
  • KKP (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 58 บาท รายงานกำไรไตรมาส 3/59 ที่ 1.7 พันล้านบาท +30% QoQ และ +83% YoY ซึ่งมากกว่าคาด เนื่องจากมีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายจำนวนมากบันทึกในไตรมาสนี้ จึงมองกำไรของธนาคารโดยรวมถือว่าดีทั้งในส่วนรายได้จากสินเชื่อ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตามฐานกำไรสูงในปีนี้จะเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของกำไรในปีหน้า อย่างไรก็ตาม KKP มีจะมีดความโดดเด่นในเรื่องเงินปันผลที่คาดว่าปีนี้จะจ่ายในอัตรา 4 บาท ทำให้คิดเป็น Dividend yield 7%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ