ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,500.37 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด(+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 48,511.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,501.22 จุด ส่วนดัชนีทำจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,491.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 655 หลักทรัพย์ ลดลง 468 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 371 หลักทรัพย์
นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ขยับขึ้นต่อจากเมื่อวานนี้ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ แต่มองว่าน่าจะเป็นการสลับซื้อช่วงสั้น หลังตลาดฯในช่วงนี้ยังขาดแรงหนุนใหม่ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานเริ่มย่อตัวลง และกลุ่มแบงก์ก็ยังมีแรงขายออกมาบ้าง จะมีเพียงหุ้นขนาดกลางและเล็กบางตัวที่ขยับขึ้น ซึ่งก็น่าจะเกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ
นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/59 ของกลุ่ม real sector หลังจากกลุ่มแบงก์ประกาศงบการเงินเสร็จสิ้นแล้ว โดยมองว่าผลประกอบการของกลุ่มสื่อสารไตรมาส 3/59 จะยังไม่ค่อยดี เพราะมีเรื่องต้นทุนที่สูง กลุ่มค้าปลีกดี แต่ราคาหุ้นก็ปรับขึ้นไปแล้ว กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงพยาบาลน่าจะยังดีอยู่ ส่วนกลุ่มพลังงานยังน่าจะเข้าลงทุนได้จากราคาหุ้นที่ย่อตัวเช่น PTT,PTTEP
ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาอย่างโดดเด่น หลังการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คงต้องรอดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEM มูลค่าการซื้อขาย 3,158.03 ล้านบาท ปิดที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
BCPG มูลค่าการซื้อขาย 2,436.31 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,121.32 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,914.86 ล้านบาท ปิดที่ 19.20 บาท ลดลง 0.30 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,564.08 ล้านบาท ปิดที่ 176 50 บาท ลดลง 2.00 บาท