ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,498.36 จุด เพิ่มขึ้น 6.24 จุด (+0.42%) มูลค่าการซื้อขาย 52,398.88 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,500.99 จุด ส่วนดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,488.72 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 588 หลักทรัพย์ ลดลง 554 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 340 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างซึม โดยดัชนีฯเคลื่อนไหวในแดนบวกใกล้ระดับ 1,500 จุด แต่วอลุ่มเทรดค่อนข้างน้อย คงเป็นเพราะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวของตลาดบ้านเราก็คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดสหรัฐฯและตลาดในแถบเอเชียที่ต่างก็เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบช่วงรอข่าวใหม่
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ทำให้หุ้นไทยวันนี้บวกได้ มาจากแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มแบงก์ และการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะออกมาดี
ส่วนตลาดหุ้นในแถบยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขณะที่รอดูทิศทางราคาน้ำมันว่าจะสามารถดีดกลับขึ้นมาเหนือ 50 เหรียญฯ/บาร์เรลได้หรือไม่ ซึ่งก็มองว่าน่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ บวก/ลบ 50 เหรียญฯ/บาร์เรล ดังนั้น การจะปรับขึ้นแรงคงจะลำบาก เพราะปริมาณการผลิตยังอยู่ในระดับสูง และท่าทีผู้ผลิตน้ำมันบางรายคงไม่ยอมลดกำลังการผลิตลง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งในกรอบแคบ แต่แรงเก็งกำไรตามผลประกอบการน่าจะยังช่วยพยุงตลาดฯไว้ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 ถัดไป 1,510-1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,126.96 ล้านบาท ปิดที่ 19.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,517.47 ล้านบาท ปิดที่ 7.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,881.11 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,555.13 ล้านบาท ปิดที่ 351.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
SQ มูลค่าการซื้อขาย 1,500.54 ล้านบาท ปิดที่ 4.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท