THCOM เผย Q3/59 กำไรโต 63.8% YoY แต่หด 26.6% QoQ มุ่งเพิ่มปริมาณใช้ช่องสัญญาณ-สร้างบริการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2016 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/59 กำไรสุทธิ 434 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169 ล้านบาทหรือ 63.8% จาก 265 ล้านบาท ในไตรมาส 3/58 (YoY)

แต่ปรับตัวลดลง 157 ล้านบาท หรือ 26.6% จาก 591 ล้านบาท (QoQ) สาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการดาวเทียม จากการยกเลิกกิจการของลูกค้าในประเทศรายใหญ่รายหนึ่ง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางด้านค่าเสื่อมราคาของดาวเทียมไทยคม 8 ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการ อย่างไรก็ดี หากไม่รวมผลกระทบจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการพิเศษอื่นๆ บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 365 ล้านบาท

"ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน และยังคงเป็นผู้นำในตลาดดาวเทียมแบบบรอดแบนด์ที่ให้บริการในเอเชียแปซิฟิก โดยสาเหตุหลักเนื่องมาจากการยกเลิกกิจการของลูกค้าในประเทศรายใหญ่รายหนึ่ง ในขณะที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียมไทยคม 8 ประกอบกับการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจของประเทศด้วย"นายไพบูลย์ กล่าว

THCOM จึงมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณการใช้ช่องสัญญาณและบริการต่อเนื่องในตลาดต่างๆ รวมถึงสร้างบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อรักษาผลการดำเนินงาน โดยได้ลงนามในสัญญาการให้บริการบนดาวเทียมไทยคม 8 กับบริษัท ไอพีเอ็ม จำกัด และบริษัท อินโฟแซท จำกัด (Infosat) ในประเทศลาว ตลอดจนได้ร่วมมือกับบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดบริการแอพพลิเคชั่น Kantana Play เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงคอนเทนต์เพิ่มเติมจาก 2nd screen application บนสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.59 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แซทเทลไลท์ จำกัด (ISC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ทำสัญญาการจัดซื้อดาวเทียมกับบริษัท ไชน่า เกรท วอลล์ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น (China Great Wall Industry Corporation) เพื่อจัดสร้างดาวเทียมให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจรายหนึ่งของไทยคม

ดาวเทียมดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 208 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,280 ล้านบาทโดยเทียบเท่า ซึ่งพันธมิตรจะเช่าช่องสัญญาณทั้งหมด และจะชำระเงินค่าบริการล่วงหน้าให้แก่ ISC คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการราวปลายปี 62 โดยโครงการดาวเทียมดวงใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทฯ จากการดำเนินโครงการ และเพื่อรองรับการให้บริการด้านบรอดแบนด์และ Mobility ในอนาคต

นอกเหนือจากผลประกอบการแล้ว THCOM ยังมุ่งที่จะสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดาวเทียมอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานความร่วมมือของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลกันเองของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศไทย ยกระดับคุณภาพรายการให้มีเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ประกอบไปด้วยสาระและบันเทิงควบคู่กันไป เพื่อพัฒนาช่องทางการหารายได้ของผู้ประกอบการ และยกระดับภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดาวเทียม อันจะเป็นผลดีต่อประชาชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป

ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านสมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองและการให้บริการข้อมูลเสียงทางโทรศัพท์และการให้บริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยังคงมีแนวโน้มลดลงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ดี CSL ได้มีการขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามคอนโดมิเนียม โดยมีจำนวนฐานลูกค้า ณ สิ้นไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 8,994 ราย เพิ่มขึ้นถึง 192.1% จากไตรมาส 3/58 รวมถึงรายได้จากการให้บริการศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Internet Data Center) ยังเติบโตเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มองค์กร

ด้าน บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (LTC) ในประเทศลาว มีรายได้จากการให้บริการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ดาต้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตซิม โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/59 มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์ในระบบรวมทั้งสิ้น 2,030,339 ราย เพิ่มขึ้นจาก 1,891,640 ราย ณ สิ้นไตรมาส 3/58 และยังคงมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 53.8% ของตลาดรวม เพิ่มขึ้นจาก 51.0% ณ สิ้นไตรมาส 3/58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ